Please use this identifier to cite or link to this item:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/11683
Title: | ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่ออุปสงค์การบริโภคน้ำผักผลไม้ของผู้บริโภคในกรุงเทพมหานคร |
Other Titles: | Factors affecting demand of fruit and vegetable juice of consumers in Bangkok Metropolis |
Authors: | สุภาสินี ตันติศรีสุข กัณฐมณี สงข์ขำ, 2522- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา อรวินท์ เลาหรัชตนันท์ |
Keywords: | ผู้บริโภค--ไทย--กรุงเทพฯ น้ำผลไม้--ไทย--แง่เศรษฐกิจ น้ำผัก--ไทย--แง่เศรษฐกิจ |
Issue Date: | 2551 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
Abstract: | การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาวะทั่วไปของการบริโภคน้ำผักผลไม้ของผู้บริโภคในกรุงเทพมหานคร 2) ศึกษาถึงปัจจัยที่กำหนดอุปสงค์ต่อการบริโภคน้ำผักผลไม้ของผู้บริโภคในกรุงเทพมหานคร 3) ศึกษาความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อการบริโภคน้ำผักผลไม้ของผู้บริโภคในกรุงเทพมหานคร 4) ศึกษาพฤติกรรมการบริโภคน้ำผักผลไม้ของผู้บริโภคในกรุงเทพมหานคร 5) ศึกษาปัญหาและอุปสรรคของการบริโภคน้ำผักผลไม้ของผู้บริโภคในกรุงเทพมหานคร ผลการศึกษาพบว่า 1) ในช่วงปี พ.ศ. 2544 - พ.ศ. 2551 การบริโภคน้ำผักผลไม้ในประเทศไทยรวมทั้งสิ้นเฉลี่ยประมาณ 24,925.90 ตันต่อปี อยู่ในเขตกรุงเทพมหานครเฉลี่ยประมาณ 5,059.88 ตันต่อปีหรือประมาณร้อยละ 21 และในส่วนภูมิภาคเฉลี่ยประมาณ 19,866.02 ตันต่อปีหรือประมาณร้อยละ 79 ของการบริโภคน้ำผักผลไม้ทั่วประเทศ ผู้บริโภคน้ำผักผลไม้ในกรุงเทพมหานครจากกลุ่มตัวอย่าง ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงมากกว่าเพศชาย มีอายุอยู่ระหว่าง 20-29 ปี มีสถานภาพโสด การศึกษาระดับปริญญาตรี อาชีพพนักงานบริษัทเอกชน และมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน 10,000 บาท 2) ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่ออุปสงค์การบริโภคน้ำผักผลไม้ที่สำคัญ ได้แก่ เพศ ระดับการศึกษา รายได้เฉลี่ยต่อเดือน อาชีพ อายุ ราคาน้ำผักผลไม้ และรสนิยมของผู้บริโภคน้ำผักผลไม้ ที่ระดับนัยสำคัญ 0.01 ตามลำดับ โดยระดับการศึกษา รายได้เฉลี่ยต่อเดือน อายุ ราคาน้ำผักผลไม้ และรสนิยมของผู้บริโภคน้ำผักผลไม้ มีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกันกับอุปสงค์น้ำผักผลไม้ ส่วนเพศและอาชีพ มีความสัมพันธ์ในทิศทางตรงข้ามกับอุปสงค์ ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่ออุปสงค์ทุกตัวแปรมีความสัมพันธ์ที่สอดคล้องกับสมมติฐานที่ตั้งไว้ ยกเว้นราคาน้ำผักผลไม้ไม่สอดคล้องกับสมมติฐาน 3) ความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อราคาเท่ากับ 0.227 และความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อรายได้เท่ากับ 0.617 4) พฤติกรรมการบริโภคน้ำผักผลไม้ของผู้บริโภค นิยมบริโภคน้ำส้ม ดื่มเพื่อสุขภาพ บริโภค 1-2 วัน/สัปดาห์ ความเข้มข้น 100% วัตถุประสงค์ที่ซื้อเพื่อดื่มเอง แบบบรรจุกล่อง ขนาด 200-330 ซีซี 5) ปัญหาที่พบส่วนใหญ่ ได้แก่ น้ำผักผลไม้มีการเจือสี แต่งกลิ่นและใส่สารกันบูด และน้ำผักผลไม้มีราคาสูง อุปสรรคสำคัญของการบริโภคน้ำผักผลไม้ในกรุงเทพมหานคร ได้แก่ การโฆษณาและประชาสัมพันธ์ในการดื่มน้ำผักผลไม้น้อยกว่าเครื่องดื่มชนิดอื่น การกระคุ้นการบริโภคยังมีน้อย น้ำผักผลไม้ส่วนใหญ่มีจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้ามากกว่าร้านค้าทั่วไปทำให้การกระจายสินค้ายังไม่ทั่วถึง |
Description: | วิทยานิพนธ์ (ศ.ม. (เศรษฐศาสตร์))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2551 |
URI: | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/11683 |
Appears in Collections: | Econ-Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
114898.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 4.54 MB | Adobe PDF | View/Open |
This item is licensed under a Creative Commons License