Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/12862
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorช่อทิพย์ บรมธนรัตน์th_TH
dc.contributor.authorรุ่งรัตน์ ทวีวงษ์th_TH
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพth_TH
dc.date.accessioned2024-10-01T03:27:18Z-
dc.date.available2024-10-01T03:27:18Z-
dc.date.issued2557-
dc.identifier.urihttps://ir.stou.ac.th/handle/123456789/12862en_US
dc.description.abstractการวิจัยเชิงพรรณนาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษา (1) ปัจจัยคุณลักษณะส่วนบุคคล แรงจูงใจในการปฏิบัติงาน และการเสริมพลังอำนาจในงาน (2) สมรรถนะประจำกลุ่มงานของนักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จังหวัดนครนายก (3) ปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อสมรรถนะประจำกลุ่มงานของนักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จังหวัดนครนายก ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จังหวัดนครนายก ที่ปฏิบัติงานไม่น้อยกว่า 1 ปี จำนวน 56 แห่ง ใน 4 อำเภอ จำนวนทั้งหมด 107 คน โดยศึกษาทุกหน่วยประชากร เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามที่มีค่าความเที่ยงของแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน การเสริมพลังอำนาจในงาน และสมรรถนะประจำกลุ่มงานของนักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ อยู่ระหว่าง 0.89- 0.95 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน ผลการวิจัยพบว่า (1) กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุเฉลี่ย 47.5 ปี สถานภาพสมรสคู่ จบการศึกษาในระดับปริญญาตรี ได้รับเงินเดือนเฉลี่ย 34,787 บาทต่อเดือน มีระยะเวลาในการปฏิบัติงานในตำแหน่งเฉลี่ย 13.9 ปี แรงจูงใจในการปฏิบัติงานในภาพรวม และปัจจัยค้ำจุน อยู่ในระดับปานกลาง ปัจจัยจูงใจอยู่ในระดับมาก การเสริมพลังอำนาจในงานภาพรวมและรายด้านอยู่ในระดับปานกลาง ยกเว้นด้านการได้รับการสนับสนุนอยู่ในระดับมาก (2) สมรรถนะประจำกลุ่มงานของนักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการภาพรวมและรายด้านอยู่ในระดับสูง ยกเว้น ด้านการสั่งการตามอำนาจหน้าที่ ศิลปะการสื่อสารจูงใจ และสุนทรียภาพทางศิลปะ อยู่ในระดับปานกลาง และ (3) ปัจจัยที่มีผลต่อสมรรถนะประจำกลุ่มงานของนักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 คือ ปัจจัยจูงใจภาพรวม การเสริมพลังอำนาจในงานด้านการได้รับทรัพยากร ระดับการศึกษา และปัจจัยจูงใจด้านความรับผิดชอบ ตามลำดับโดยมีอำนาจการทำนายร้อยละ 54.7 ข้อเสนอแนะต่อผู้บริหารสาธารณสุขระดับจังหวัด ควรพัฒนาบุคลากรให้มีความรอบรู้และทักษะในการปฏิบัติงานตามตำแหน่งและหน้าที่รับผิดชอบให้มีประสิทธิภาพ มีการบริหารจัดการด้วยหลักธรรมาภิบาลสนับสนุนสวัสดิการ และสร้างขวัญกำลังใจแก่บุคลากรที่ปฏิบัติงานอย่างเหมาะสมth_TH
dc.formatapplication/pdfen_US
dc.language.isothen_US
dc.publisherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rightsมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rightsAttribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0)th_TH
dc.rights.urihttps://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0/en_US
dc.sourceBorn digitalen_US
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ--การศึกษาเฉพาะกรณีth_TH
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วิชาเอกบริหารสาธารณสุข--การศึกษาเฉพาะกรณีth_TH
dc.subjectโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล--ไทย--นครนายกth_TH
dc.titleปัจจัยที่มีผลต่อสมรรถนะประจำกลุ่มงานของนักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จังหวัดนครนายกth_TH
dc.title.alternativeFactors affecting functional competency of professional public health technical officers at Sub-district Health Promoting Hospitals in Nakhon Nayok Provinceth_TH
dc.typeThesisen_US
dc.degree.nameสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิตth_TH
dc.degree.levelปริญญาโทth_TH
dc.degree.disciplineสาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพth_TH
dc.degree.grantorมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.description.abstractalternativeThe objectives of this descriptive study were to study: (1) personal factors, work motivation, and work empowerment; (2) functional competency; (3) factors affecting functional competency, of professional public health technical officers at sub-district health promoting hospitals in Nakhon Nayok province. The study was conducted among all 107 professional public health technical officers who had worked at 56 sub-district health promoting hospitals in 4 districts of the province for at least one year. The research instrument was a questionnaire with the reliability values for work motivation, work empowerment, and functional competency of 0.89-0.95. Statistics used for data analysis were percentage, standard deviation, and stepwise multiple regression analysis. The results revealed that: (1) the majority of respondents were female, with an average of 47.5 years, married, and bachelor's degree-holders with an average salary of about 34,787 baht per month and 13.9 years of service on average. Their overall work motivation and hygiene factor were at a moderate level, but motivation factor at a high level, empowerment (overall and each aspect) at a moderate level, but the receipt of support was at a high level; (2) their functional competency (overall and each aspect) levels were high, except that those for directing, communication and motivation, and artistic aesthetics were moderate; (3) the factors significantly affecting their functional competency were overall motivation, work empowerment regarding obtain resources, educational level, and motivation regarding responsibility at 0.05 level; and the predictive power was 54.7 percent. Recommendations for the provincial public health administrators should enhance personnel capacity so that they have knowledge and skills to efficiently perform the assigned duties, undertake the management functions with good governance, provide welfare services, and boost staff morale as appropriate.en_US
Appears in Collections:Health-Independent study

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
fulltext_147251.pdfเอกสารฉบับเต็ม3.49 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons