Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/12863
Title: ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการบริหารงานสร้างเสริมสุขภาพของอาสาสมัครสาธารณสุขนักจัดการสุขภาพในเมืองท่องเที่ยวชะอำ
Other Titles: Factors affecting health promotion program management of village health volunteers as health managers in Cha-am, a tourist destination
Authors: ธีระวุธ ธรรมกุล
ลัดดา ต้วมศรี
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ
Keywords: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ--การศึกษาเฉพาะกรณี
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วิชาเอกบริหารสาธารณสุข--การศึกษาเฉพาะกรณี
การส่งเสริมสุขภาพ
การบริหารสาธารณสุข
อาสาสมัครสาธารณสุข | การศึกษาอิสระ--บริหารสาธารณสุข
Issue Date: 2559
Publisher: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
Abstract: การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบภาคตัดขวาง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) ปัจจัยส่วนบุคคล ปัจจัยจูงใจในการปฏิบัติงาน (2) ระดับการบริหารงานสร้างเสริมสุขภาพ และ (3) อิทธิพลของปัจจัยส่วนบุคคล ปัจจัยจูงใจในการปฏิบัติงานต่อการบริหารงานสร้างเสริมสุขภาพของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) นักจัดการสุขภาพ ในเขตเทศบาลเมืองชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ประชากรคือ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านจำนวน 366 คน ตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาจำนวน 185 คน จากการสุ่มตัวอย่างอย่างง่าย เก็บข้อมูลในเดือนสิงหาคม 2560 โดยใช้แบบสอบถามมีค่าความเที่ยง 0.92 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการวิเคราะห์ถดถอยพหุ ผลการวิจัยพบว่ากลุ่มตัวอย่างมี 1) อายุเฉลี่ย 54.83 ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงร้อยละ 87.0 การศึกษาอยู่ในระดับประถมศึกษาร้อยละ 54.1 อาชีพรับจ้างร้อยละ 28.1 ระยะเวลาที่ปฏิบัติงานอยู่ในช่วงน้อยกว่า 10 ปี ร้อยละ 53.0 และมีระดับปัจจัยจูงใจในการปฏิบัติงานสร้างเสริมสุขภาพโดยรวมอยู่ในระดับมาก 2) การบริหารงานสร้างเสริมสุขภาพอยู่ในระดับมาก และ 3) ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการบริหารงานสร้างเสริมสุขภาพของอาสาสมัครสาธารณสุขนักจัดการสุขภาพหลังจากควบคุมตัวแปรที่มีอิทธิพลร่วม คือ ปัจจัยจูงใจในการปฏิบัติงาน (p< 0.001) ปัจจัยจูงใจด้านการได้รับการยอมรับ(p = 0.012) และปัจจัยจูงใจด้านความก้าวหน้าในตำแหน่งงาน (p =0.048) โดยสามารถอธิบายการบริหารงานสร้างเสริมสุขภาพของอาสาสมัครสาธารณสุขนักจัดการสุขภาพได้ร้อยละ 28.2 ดังนั้นเจ้าหน้าที่สาธารณสุขควรส่งเสริมปัจจัยทั้ง 3 ด้านดังกล่าว ให้ อสม. นักจัดการสุขภาพ เพื่อนำไปสู่การดูแลสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ได้ดียิ่งขึ้นต่อไป
URI: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/12863
Appears in Collections:Health-Independent study

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
fulltext_154886.pdfเอกสารฉบับเต็ม4.59 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons