Guidelines for Developing Appropriate Operational Competency of Chiang Mai Provincial Industry Office

Abstract

The purposes of this study were: (1) to study the characteristics of developing appropriate operational competency of Chiang Mai Provincial Industry Office, (2) to study the level of opinions towards developing appropriate operational competency of Chiang Mai Provincial Industry Office, and (3) to suggest guidelines for developing appropriate operational competency of Chiang Mai Provincial Industry Office. This study's methodology was a mixed-methods approach that combines elements of quantitative and qualitative research. For the quantitative research aspect, the population used in the study consisted of 34 people, including civil servants, permanent employees, government employees, and independent contractors. The study utilized questionnaires and employed descriptive statistical analysis techniques, including frequency, percentage, mean, and standard deviation. For the qualitative research component, a group of 7 participants was interviewed, including directors, chiefs, officers, and clients. The tools used for this part included questionnaires and data analysis techniques involving content analysis to display descriptive information.The results of the study showed that: (1) The characteristics of developing appropriate operational competency at the Chiang Mai Provincial Industry Office consisted of core competencies, functional competencies, knowledge, skills, and attitudes. (2) The overall level of opinions regarding the development of appropriate operational competency at the Chiang Mai Provincial Industry Office was high. When considering each aspect individually, the Attitude aspect was found to be at the highest level. (3) Guidelines for developing appropriate operational competency at the Chiang Mai Provincial Industry Office include continual self-improvement of personnel, maintaining a good attitude, taking high responsibility for their duties, volunteering, fostering harmony, and promoting organizational engagement. Training is required to develop knowledge and enhance the learning organization. Additionally, management should focus on developing appropriate operational competency and provide the necessary technology for their operations.

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) ลักษณะของสมรรถนะที่เหมาะสมในการปฏิบัติงานของสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ (2) ระดับความคิดเห็นต่อการพัฒนาสมรรถนะที่เหมาะสมในการปฏิบัติงานของสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ และ (3) เสนอแนะแนวทางการพัฒนาสมรรถนะที่เหมาะสมในการปฏิบัติงานของสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่การศึกษานี้เป็นการวิจัยแบบผสมวิธี สำหรับการวิจัยเชิงปริมาณ ประชากรที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ พนักงานราชการ และจ้างเหมาบริการ จำนวน 34 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาคือ แบบสอบถาม และการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ส่วนการวิจัยเชิงคุณภาพ กลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 7 คน เลือกแบบเฉพาะเจาะจง ได้แก่ หัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้ากลุ่มงาน เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน และผู้รับบริการ เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาคือ แบบสัมภาษณ์ และ การวิเคราะห์ข้อมูลแบบวิเคราะห์เนื้อหา และนำเสนอข้อมูลด้วยการพรรณนาผลการศึกษา พบว่า (1) ลักษณะของสมรรถนะที่เหมาะสมในการปฏิบัติงานของสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ ประกอบด้วย สมรรถนะหลัก สมรรถนะเฉพาะตามลักษณะงานที่ปฏิบัติ ความรู้ ทักษะที่จำเป็น และเจตคติ (2) ระดับการพัฒนาสมรรถนะที่เหมาะสมในการปฏิบัติงานของสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านเจตคติอยู่ในระดับมากที่สุด และ(3) แนวทางการพัฒนาสมรรถนะที่เหมาะสมในการปฏิบัติงานของสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ บุคลากรควรพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ มีทัศนคติที่ดีในการทำงาน ต้องรู้จักหน้าที่และความรับผิดชอบ มีจิตอาสา สามัคคี และรักองค์กร มีการฝึกอบรม พัฒนาด้านองค์ความรู้ ส่งเสริมการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ ผู้บริหารควรให้ความสำคัญ และสนับสนุนด้านเทคโนโลยีใน การปฏิบัติงาน