Extension Guidelines for Soil Biotechnology Usage of Farmers in Paddy Collaborative Farming Group in Na Nong Phai Subdistrict ,Chumphon Buri District ,Surin Province

Abstract

The objectives of this research were to study 1) social and economic conditions of farmers 2) rice production conditions of farmers 3) knowledge and soil biotechnology usage of farmers 4) extension guidelines in the use of soil biotechnology of farmers and 5) problems and suggestions regarding soil biotechnology usage of farmers. The population of this study was 133 rice collective farming farmers. The sample size of 100 people was determined by using simple random sampling method. Data were collected by conducting interview and were analyzed by using statistics such as frequency, percentage, mean, standard deviation, minimum value and maximum value. The results of the research found that 1) most of the collective farming farmers were female, completed primary school education, had the average age of 56.14 years old, and had the average member in the household of 2.97 people. 90 percent of them did not hold any social position. Their main professions were farmers. They earned the average income from rice production of 7,733.0 Baht/year. 2) Most of the rice farming area were flat land. 91 percent of soil used for rice production was sandy loam. Regarding the soil preparation, it revealed that 33.3 percent of farmers prepared the soil by first ploughing and second ploughing. For the type of rice used, it showed that 52.0% chose GorKhor 15 rice. 3) In regard to knowledge and soil biotechnology usage of farmers, it found that 66.0 percent had knowledge at the highest level. Second to that (25.0 percent) had knowledge at the high level. They applied compost fertilizer from microbial activator PD.1 together with chemical fertilizers in order to reduce the production costs (95.0 percent). 81.0 percent of them used biological extracts from microbial activator PD.2 in soil preparation every consecutive year. 4) The extension guidelines in soil biotechnology usage of farmers and extension channels for soil biotechnology usage regarding the level received of PD.12 were at the lowest level, 2.50 on average. Apart from that, they were at the moderate level. The level of knowledge needed was at the high level in every soil biotechnology product. They needed the channels of extension the most on publication media, electronic media, demonstration, and field trips. 5) Only some of the farmers faced with problems such as the lack of continuous extension in soil biotechnology usage and the insufficient trainings. Suggestions included that there should be regular coordination among the agricultural extension officers, there should not be a frequent change of the department of land development officer, and there should be more than 2 times of training organization.

การวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) สภาพสังคมและเศรษฐกิจของเกษตรกร 2) สภาพการผลิตข้าวของเกษตรกร 3) ความรู้และการใช้เทคโนโลยีชีวภาพทางดินของเกษตรกร 4) แนวทางการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีชีวภาพทางดินของเกษตรกรและ 5) ปัญหาและข้อเสนอแนะการใช้เทคโนโลยีชีวภาพทางดินของเกษตรกร ประชากรที่ศึกษาคือ เกษตรกรกลุ่มนาแปลงใหญ่จำนวนทั้งหมด 133 ราย ใช้การสุ่มตัวอย่างแบบง่ายได้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 100 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสัมภาษณ์ และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าต่ำสุด ค่าสูงสุด และการจัดอันดับ ผลการวิจัยพบว่า 1) เกษตรกรกลุ่มนาแปลงใหญ่ ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง จบการศึกษาในระดับประถมศึกษา อายุเฉลี่ย 56.14 ปี จำนวนสมาชิกในครัวเรือน เฉลี่ย 2.97 คน ร้อยละ 90 ไม่มีตำแหน่งทางสังคม อาชีพหลักคือทำนา รายได้จากการผลิตข้าวเฉลี่ย 7,733.0/ปี 2) สภาพพื้นที่ในการปลูกข้าวส่วนมากเป็นพื้นที่ราบลุ่ม ดินที่ปลูกข้าวเป็นดินร่วนปนทราย ร้อยละ 91 การเตรียมดิน ร้อยละ 33.3 มีการเตรียมดินแบบไถดะและไถแปร ร้อยละ 52.0 ข้าวพันธุ์ กข 15 3) เกษตรกร ร้อยละ 66.0 มีความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีชีวภาพทางดินในระดับมากที่สุด มีการใช้ปุ๋ยหมักจากสารเร่งซุปเปอร์ พด. 1 ร่วมกับปุ๋ยเคมีเพื่อลดต้นทุนการผลิต ร้อยละ 95.0 การใช้น้ำหมักชีวภาพจากสารเร่งซุปเปอร์ พด.2 ในการจัดการดินติดต่อกันทุกปี ร้อยละ 81.0 4) แนวทางการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีชีวภาพทางดินของเกษตรกรและช่องทางการส่งเสริมเทคโนโลยีชีวภาพทางดิน ด้านระดับความรู้ที่ได้รับของ พด.12 อยู่ในระดับน้อยที่สุด เฉลี่ย 2.50 นอกนั้นอยู่ในระดับปานกลาง ระดับความรู้ที่ต้องการอยู่ในระดับมากของทุกผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพทางดิน ด้านสื่อสิ่งพิมพ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ การสาธิต ทัศนศึกษา มีความต้องการระดับมาก 5) มีเกษตรกรเพียงบางส่วนที่มีปัญหาบางประการ ได้แก่ การขาดความรู้เรื่องการใช้เทคโนโลยีชีวภาพทางดิน ข้อเสนอแนะคือ ควรมีการจัดฝึกอบรมให้ความรู้วิธีการใช้สาธิตให้เกษตรกรได้ปฏิบัติจริงจนเกิดทักษะ และเผยแพร่ความรู้ด้านเทคโนโลยีชีวภาพทางดินผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ ผ่านเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร เจ้าหน้าที่ของกรมพัฒนาที่ดิน หมอดินอาสา