Decision to Purchase of Consumer from Nakhon Nayok Hospital Cooperative Store Limited

Abstract

The objectives were to study 1) decision to purchase of consumer 2) marketing mix factors of cooperative store 3) the relationship between personal factors and marketing mixed factors related to purchasing decision and 4) Recommendations for developing cooperative operation The study was done by survey method. The population of the study was consumers who purchased products from Nakhon Nayok Hospital Cooperative Store limited. The sample size was 385 people which determined using calculations from the formula without knowing population of W. G. Cochran at 95 percent confidence level. The questionnaire was used to collect data using a simple random sampling method. The statistics was used to analyze data such as frequency, percentage, mean score, standard deviation chi-square test and content analysis. The result of study found that the most of consumers purchasing products were female, age 31-40 years, bachelor degree education, single, average monthly income 10,001 - 15,000 baht and general people. 1) The decision to purchase of consumer found that the types of products bought in the food and beverage, the average expenditure 100-300 baht, frequency of purchase 4-10 times per month and the important reason because of some products cheaper than general stores. 2) The overall marketing mix factors of cooperative store were at the highest level, including product, price, distribution channel, and marketing promotion. 3)The relationship between personal factors and purchasing decision at a statistical significance level of 0.05 was gender, age, education, status, average monthly income, and type of consumer. The relationship between marketing mixed factors and purchasing decision at a statistical significance level of 0.05 found that product, price, distribution channel and marketing promotion were related to the type of product, expenditure per purchase, frequency of purchase per month, and reason to buy. and 4) The recommendations should set appropriate prices, increase delivery services, and more cashier counters during rush hours.

การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) การตัดสินใจซื้อสินค้าของผู้บริโภค 2) ปัจจัยส่วนประสมการตลาดของร้านสหกรณ์ 3) ความสัมพันธ์ของปัจจัยส่วนบุคคลและปัจจัยส่วนประสมการตลาดที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจซื้อสินค้า และ 4) ข้อเสนอแนะในการพัฒนาการดำเนินงานของสหกรณ์ การศึกษานี้เป็นการวิจัยแบบสำรวจ ประชากรที่ศึกษา คือ ผู้บริโภคที่มาซื้อสินค้าจากร้านสหกรณ์โรงพยาบาลนครนายก จำกัด กำหนดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้การคำนวณจากสูตรที่ไม่ทราบจำนวนประชากรที่แน่นอนของ ดับเบิลยู จี โคเชน ที่ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 95 ได้จำนวนกลุ่มตัวอย่าง 385 คน ใช้แบบสอบถามในการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีสุ่มตัวอย่างอย่างง่าย สถิติที่ใช้ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ คะแนนเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติทดสอบไคสแควร์ และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการศึกษาพบว่า ผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุ 31 – 40 ปี การศึกษาปริญญาตรี สถานภาพโสด รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,001 – 15,000 บาท และส่วนใหญ่เป็นบุคคลทั่วไป 1) การตัดสินใจซื้อสินค้าของผู้บริโภค พบว่า ประเภทสินค้าที่ซื้อในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อครั้ง 100 – 300 ความถี่ในการซื้อสินค้า 4 – 10 ครั้งต่อเดือน และเหตุผลสำคัญเพราะสินค้าบางรายการราคาถูกกว่าร้านทั่วไป 2) ปัจจัยส่วนประสมการตลาดโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ได้แก่ ด้านผลิตภัณฑ์ ด้านราคา ด้านช่องทางการจำหน่าย และด้านการส่งเสริมการตลาด 3) ความสัมพันธ์ของปัจจัยส่วนบุคคลกับการตัดสินใจซื้อสินค้าที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 คือ เพศ อายุ การศึกษา สถานภาพ รายได้ต่อเดือน และประเภทของผู้บริโภค ความสัมพันธ์ของปัจจัยส่วนประสมการตลาดกับการตัดสินใจซื้อสินค้าที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 พบว่า ด้านผลิตภัณฑ์ ด้านราคา ด้านช่องทางจำหน่าย และด้านการส่งเสริมการตลาด มีความสัมพันธ์กับ ประเภทของสินค้า ค่าใช้จ่ายต่อครั้ง ความถี่ในการซื้อสินค้าต่อเดือน และเหตุผลที่เลือกซื้อสินค้า และ 4) ข้อเสนอแนะคือ ควรกำหนดราคาให้เหมาะสม เพิ่มการบริการจัดส่ง และเพิ่มช่องคิดเงินในช่วงเวลาเร่งด่วน