Please use this identifier to cite or link to this item:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/13775
Title: | การพัฒนาตัวแบบการจัดการรองรับสังคมสูงวัย จังหวัดปทุมธานี |
Other Titles: | Development of a management model to support an aging society in Pathum Thani Province |
Authors: | เอกพล กาละดี ประกาศ เปล่งพานิชย์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา วรางคณา จันทร์คง |
Keywords: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ--วิทยานิพนธ์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วิชาเอกบริหารสาธารณสุข--วิทยานิพนธ์ การสูงวัยของประชากร--ไทย--ปทุมธานี--การจัดการ |
Issue Date: | 2566 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
Abstract: | การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัญหาของพื้นที่และกลไกการจัดการรองรับสังคมสูงวัยในปัจจุบันของจังหวัดปทุมธานี 2) ศึกษาจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาสและอุปสรรคต่อการจัดการรองรับสังคมสูงวัย 3) ศึกษาข้อเสนอเพื่อการจัดการรองรับสังคมสูงวัย และ 4) พัฒนาและประเมินผลตัวแบบการจัดการรองรับสังคมสูงวัยจังหวัดปทุมธานีการวิจัยและพัฒนาครั้งนี้ แบ่งเป็น 3 ระยะ ประกอบด้วย ระยะที่ 1 ศึกษาสภาพปัญหาของพื้นที่และกลไกการจัดการรองรับสังคมสูงวัย จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาสและอุปสรรคต่อการจัดการรองรับสังคมสูงวัย และข้อเสนอเพื่อการจัดการรองรับสังคมสูงวัย เก็บข้อมูลด้วยการสนทนากลุ่มกับผู้มีบทบาทในการขับเคลื่อนการจัดการรองรับสังคมสูงวัยระดับจังหวัด 4 คน และระดับอำเภอ 7 อำเภอๆละ 15 คน รวม 119 คน ระยะที่ 2 พัฒนาตัวแบบโดยการนำผลการวิจัยระยะที่ 1 มาสร้างเป็นร่างตัวแบบ และประเมินตัวแบบ เก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถามกับผู้รับผิดชอบงานพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับจังหวัด อำเภอ และคณะกรรมการจัดสมัชชาสุขภาพจังหวัดปทุมธานี จำนวน 105 คน และระยะที่ 3 ทดลองใช้และประเมินผล โดยนำร่างตัวแบบมาทดลองใช้กับพื้นที่ตำบลที่มีบริบทความเป็นเมืองและชนบทอย่างละ 1 พื้นที่ เป็นเวลาสามเดือน รวบรวมข้อมูลเพื่อการประเมินผลด้วยกระบวนการสนทนากลุ่ม นำมาวิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหาผลการวิจัย พบว่า 1) สภาพปัญหาของการจัดการรองรับสังคมสูงวัยในแต่ละพื้นที่มีสภาพปัญหาแตกต่างกัน ได้แก่ ปัญหาการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุเขตเมือง ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การจัดการภัยพิบัติกับการอพยพผู้สูงอายุ สำหรับกลไกหลักในการจัดการรองรับสังคมสูงวัยในปัจจุบัน อยู่ที่กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 2) จุดแข็ง คือ มีโครงสร้างในหน่วยงานภาครัฐและบุคลากรมีความรู้ แต่จุดอ่อน คือ ยังขาดการบูรณาการระหว่างหน่วยงาน โอกาส คือ ความตระหนักถึงการก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัย มีกฎหมายและเทคโนโลยีที่เอื้อต่อการทำงาน รวมทั้งการพัฒนาอารยะสถาปัตย์ แต่อุปสรรค คือ ขาดความต่อเนื่องเชิงนโยบาย และความก้าวหน้าของเทคโนโลยี สภาพเศรษฐกิจ ทำให้ผู้สูงอายุถูกหลอกลวง/ถูกทอดทิ้งมากขึ้น 3) ข้อเสนอเพื่อการจัดการรองรับสังคมสูงวัย คือเปิดโอกาสให้เครือข่ายสมัชชาสุขภาพ มีส่วนร่วมกับคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) รวมทั้งจัดให้มีคณะกรรมการสมัชชาสุขภาพระดับอำเภอ และมีเจ้าภาพประสานงาน คือสร้าง “Mr.สูงวัย” มีการอำนวยการทุกระดับการรายงานตัวชี้วัด และงบประมาณสนับสนุน พชอ. และ 4) ตัวแบบการจัดการรองรับสังคมสูงวัย ประกอบด้วย ระบบบริหารจัดการ ระบบสนับสนุนและกลไกการขับเคลื่อน เมื่อทดลองใช้ตัวแบบและประเมินผลโดยการสนทนากลุ่ม พบว่า ผลของตัวแบบทำให้เกิดการจัดการตนเอง โดยควรมีการกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วม การทบทวนกลไก และการแสวงหางบประมาณเชิงรุก โดยมีข้อเสนอเพื่อการยกระดับการทำงานโดยขับเคลื่อนผ่านนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพ ธรรมนูญสุขภาพ เพื่อให้การจัดการรองรับสังคมสูงวัย ดำเนินงานไปอย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น |
Description: | วิทยานิพนธ์ (ส.ม. (บริหารสาธารณสุข))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2566 |
URI: | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/13775 |
Appears in Collections: | Health-Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
2635000322.pdf | 941.6 kB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.