กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/1945
ระเบียนเมทาดาทาแบบเต็ม
ฟิลด์ DC ค่าภาษา
dc.contributor.advisorชื่นจิตร โพธิศัพท์สุขth_TH
dc.contributor.authorนุสรา สุทธิธรรม, 2508-th_TH
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษาth_TH
dc.date.accessioned2022-11-01T01:29:47Z-
dc.date.available2022-11-01T01:29:47Z-
dc.date.issued2552-
dc.identifier.urihttp://ir.stou.ac.th/handle/123456789/1945en_US
dc.descriptionวิทยานิพนธ์ (พย.ม. (การบริหารการพยาบาล))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2552th_TH
dc.description.abstractการวิจัยเซิงปฏิบัติการนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารความเสี่ยงต่อการเลื่อน/หลุดของท่อช่วยหายใจโดยการมีส่วนร่วมของพยาบาลห้องผู้ป่วยหนัก 1 โรงพยาบาลสมุทรสาคร วัตถุประสงค์เฉพาะเพื่อ (1) วิเคราะห์สาเหตุของปัญหาการเลื่อน/หลุดของท่อช่วยหายใจ (2) ดำเนินการพัฒนารูปแบบการบริหารความเสี่ยงต่อการเลื่อน/หลุดของท่อช่วยหายใจโดยการมีส่วนร่วมของพยาบาล (3) เปรียบเทียบจำนวนอุบัติการณ์การเลื่อน/หลุดของท่อช่วยหายใจของผู้ป่วย และความพึงพอใจของพยาบาลต่อรูปแบบการบริหารความเสี่ยงก่อนและหลังใช่รูปแบบการบริหารความเสี่ยงฯ กลุ่มตัวอย่าง คือ พยาบาลวิชาซิพที่ปฏิบัติงานห้องผู้ป่วยหนัก 1 โรงพยาบาลสมุทรสาคร จำนวน 16 คน ผู้ป่วยที่ใส่ท่อช่วยหายใจ จำนวน 37 คน และญาติของผู้ป่วยที่เกิดอุบัติการณ์การเลื่อน/หลุดของท่อช่วยหายใจ เครื่องมือที่ใช่เป็นแบบบันทึกรายงานอุบัติการณ์ความเสี่ยง แบบสัมภาษณ์ผู้ป่วยและญาติ แนวคำถามในการสนทนากลุ่ม แผนการอบรมเซิงปฏิบัติการ แบบบันทึกติดตามประเมินผลการเลื่อน/หลุดของท่อช่วยหายใจ และแบบสอบถามความพึงพอใจของพยาบาล แบบสอบถามใช้กับการ ตรวจสอบความตรงเซิงเนื้อหาจากผู้ทรงคุณวุฒิ 5 ท่าน และตรวจสอบความเที่ยง มีค่าความเที่ยงเท่ากับ 0.92 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเซิงปริมาณ ให้แก่ การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าไคสแควร์ การทดสอบค่าทีแบบจับคู่ และการวิเคราะห์ข้อมูลเซิงคุณภาพโดยการวิเคราะห์เนื้อหาจากการสนทนากลุ่มของพยาบาล และการสัมภาษณ์ผู้ป่วยและญาติ ผลการวิจัยพบว่า (1) สาเหตุการเลื่อน/หลุดของท่อช่วยหายใจส่วนใหญ่เกิดจากปัจจัยด้านผู้ป่วย รองลงมาคือ ปัจจัยด้านญาติและปัจจัยด้านปฏิบัติการพยาบาล (2) การพัฒนารูปแบบจะให้รูปแบบการบริหารความเสี่ยงฯ ที่ประกอบด้วย แนวทางปฏิบัติ แบบบันทึกติดตามประเมินผลการเลื่อน/หลุดของ ท่อช่วยหายใจ และแผนภูมิแสดงขั้นตอนการบริหารความเสี่ยงต่อการเลื่อน/หลุดของท่อช่วยหายใจ (3) จำนวนอุบัติการณ์การเลื่อน/หลุดของท่อช่วยหายใจ หลังใช่รูปแบบการบริหารความเสี่ยงต่ำกว่าก่อนใช้รูปแบบการบริหารความเสี่ยง และค่าเฉลี่ยความพึงพอใจของพยาบาล หลังใช่รูปแบบการบริหารความเสี่ยง สูงกว่าก่อนใช่รูปแบบการบริหารความเสี่ยงฯ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05th_TH
dc.formatapplication/pdfen_US
dc.language.isothen_US
dc.publisherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rightsมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rightsAttribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0)en_US
dc.rights.urihttps://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0/en_US
dc.sourceBorn digitalen_US
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาการบริหารการพยาบาล--วิทยานิพนธ์th_TH
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาพยาบาลศาสตร์--วิทยานิพนธ์th_TH
dc.subjectวิสัญญีวิทยา--เครื่องมือและอุปกรณ์th_TH
dc.subjectเครื่องช่วยหายใจth_TH
dc.subjectพยาบาล--ภาระงาน--การบริหารความเสี่ยงth_TH
dc.titleการพัฒนารูปแบบการบริหารความเสี่ยงต่อการเลื่อนหลุดของท่อช่วยหายใจโดยการมีส่วนร่วมของพยาบาลในห้องผู้ป่วยหนัก 1 โรงพยาบาลสมุทรสาครth_TH
dc.title.alternativeDevelopment of a risk management model of accidental extubation by staff nurses' involvement in the intensive care unit, Samutsakhon Hospitalen_US
dc.typeThesisen_US
dc.identifier.DOI10.14457/STOU.the.2009.228en_US
dc.degree.nameพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิตth_TH
dc.degree.levelปริญญาโทth_TH
dc.degree.disciplineสาขาวิชาพยาบาลศาสตร์th_TH
dc.degree.grantorมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.description.abstractalternativeThe purposes of this Action research were to (1) analyzed causes of Accidental Extubation (2) develop risk management model (3)compare incidence of Accidental Extubation in patients and nurses’ satisfaction before and after using risk management model. Study sample consisted of 16 staff nurses in Intensive Care Unit, Samutsakhon Hospital, and 37 patients (on endotracheal tube). The instruments used were incidence of Accidental Extubation report, and nurse’satisfaction questionnaire. The research instrument was tested for content validity by a panel of 5 experts and reliability. Cronbach’s alpha coefficient for nurse’satisfaction questionnaire were 0.92 respectively. Statistics used for research data analysis were percentage, mean, standard deviation, chi-square and paired t-test.The quality data were analyzed by content analysis method. The research findings were (1) The causes of incidence were patient, family and nurses (2) The risk management model composed of three elements: practice guidelines, incidence of Accidental Extubation report and flow chart (3)The incidence of Accidental Extubation after the implementation of risk management model were lower than before, and Mean score of nurse’satisfaction after the implementation of risk management model were higher the before, at the 0.5 level.en_US
dc.contributor.coadvisorธัญรดี จิรสินธิปกth_TH
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:Nurse-Theses

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
Thesbib118804.pdfเอกสารฉบับเต็ม8.84 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการนี้ได้รับอนุญาตภายใต้ Creative Commons License Creative Commons