Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/216
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorฐปนรรต พรหมอินทร์th_TH
dc.contributor.authorนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ, 2509-th_TH
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษาth_TH
dc.date.accessioned2022-08-03T04:07:12Z-
dc.date.available2022-08-03T04:07:12Z-
dc.date.issued2548-
dc.identifier.urihttp://ir.stou.ac.th/handle/123456789/216-
dc.descriptionวิทยานิพนธ์ (ร.ม. (การเมืองการปกครอง))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2548th_TH
dc.description.abstractการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) ปัญหาที่ดินทำกินของราษฎรในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ก่อนและหลังการแก้ไขปัญหาตามมติคณะรัฐมนตรี (2) วิธีการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของราษฎรในแง่การเมืองในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ตามมติคณะรัฐมนตรี (3) ผลของการแก้ไขปัญหาในทางการเมืองและผลทางการเมืองที่เกิดขึ้นตามมาจากการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของราษฎรในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ตามมติคณะรัฐมนตรี กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ประชาชนในป่าไม้เขตพื้นที่อนุรักษ์ จำนวน 196 คน และเจัาหน้าที่รัฐที่มีหน้าที่รับผดชอบนำนโยบายตามมติคณะรัฐมนตรีไปปฏิบัติ จำนวน 4 คน เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ สถติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมล ได้แก่ คำความถี่ ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ไคสแควร์ และการวิเคราะห์เนี้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1) ปัญหาที่ดินทำกินลดลงเหลือระดับค่อนข้างน้อยหลังการแก้ไขปัญหาตามมติคณะรัฐมนตรี 2) วิธีการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน ได้แก่ 2.1) ราษฎรเข้าไปมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินโดยการรับข่าวสารการแก้ไขปัญหาเป็นลำดับแรก และ 2.2) ราษฎรเข้าร่วมหาวิธีการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินในชุมชนในระดับผสมผสานวิธีที่รัฐกำหนดร่วมกับวิธีการที่ประชาชนเสนอเป็นอันดับแรก และ 3) ราษฎรส่วนใหญ่เห็นด้วยว่าการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินประสบความสำเร็จโดยมีผลทำให้ประชาชนตื่นตัวทางการเมืองเพิ่มมากยิ่งขึ้นth_TH
dc.formatapplication/pdfen_US
dc.language.isothth_TH
dc.publisherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.relation.urihttps://www.doi.org/10.14457/STOU.the.2005.291-
dc.rightsมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช-
dc.rightsAttribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0)en_US
dc.rights.urihttps://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0/en_US
dc.sourceBorn digitalen_US
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชารัฐศาสตร์ -- วิทยานิพนธ์th_TH
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาการเมืองการปกครอง -- วิทยานิพนธ์th_TH
dc.subjectการมีส่วนร่วมของประชาชนth_TH
dc.subjectการมีส่วนร่วมทางการเมือง -- ไทยth_TH
dc.subjectที่ดิน -- ไทย -- แง่การเมืองth_TH
dc.titleการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินตามมติคณะรัฐมนตรีกับผลทางการเมืองที่เกิดขึ้นตามมา : กรณีศึกษาอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย จังหวัดเชียงใหม่th_TH
dc.title.alternativeSolutions to land occupancy problems according to the cabinet' s resolution and political results : a case study of Doi Suthep-Pui National Park in Chiang Mai provinceth_TH
dc.typeThesisth_TH
dc.identifier.DOI10.14457/STOU.the.2005.291-
dc.degree.nameรัฐศาสตรมหาบัณฑิตth_TH
dc.degree.levelปริญญาโทth_TH
dc.degree.disciplineสาขาวิชารัฐศาสตร์th_TH
dc.degree.grantorมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.description.abstractalternativeThe purposes of this research were to study (1) land occupancy problems in protected forest areas before and after problem - solving according to the cabinet’s resolution (2) Political Solutions to land occupancy problems in protected forest areas according to the cabinet’s resolution and (3) the effect of problem - solving on politics and political results after that according to the cabinet’s resolution. The sample consisted of 196 people who lived in the protected forest areas at Doi Suthep-Pui National Park and 4 government officers who were responsible for policy implementation according to the cabinet’s resolution. The research tools were questionnaires and interview. Data were analyzed by using frequency, mean, standard deviation, Chi-square and content analysis. The finding were that 1) land occupancy problems decreased to a rather low level after problem - solving according to the cabinet’s resolution; 2) solutions to land occupancy problems were as follows: 2.1) people participated in the problem-solving by keeping informed about it in the first place; 2.2) people cooperated in finding solutions to the problems, primarily using a combination of government - oriented and people - oriented methods; and 3) most of the people agreed that the land occupancy problem - solving was successful and this caused people to be more stimulated in politicsen_US
dc.contributor.coadvisorจุมพล หนิมพานิชth_TH
dc.contributor.coadvisorประพนธ์ เจียรกูลth_TH
Appears in Collections:Pol-Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
fulltext.pdfเอกสารฉบับเต็ม6.49 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons