Please use this identifier to cite or link to this item:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/2288Full metadata record
| DC Field | Value | Language |
|---|---|---|
| dc.contributor.advisor | อัจฉรา ชีวะตระกูลกิจ | th_TH |
| dc.contributor.author | กาญจนา อ่อนสุวรรณ์ | th_TH |
| dc.contributor.other | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาเกษตรศาสตร์และสหกรณ์ | th_TH |
| dc.date.accessioned | 2022-12-01T03:44:38Z | - |
| dc.date.available | 2022-12-01T03:44:38Z | - |
| dc.date.issued | 2557 | - |
| dc.identifier.uri | http://ir.stou.ac.th/handle/123456789/2288 | en_US |
| dc.description.abstract | การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ปัจจัยส่วนบุคคลของผู้บริหารสหกรณ์และผู้เกี่ยวข้อง กับสหกรณ์เกี่ยวกับการจัดการตามหลักธรรมาภิบาลของสหกรณ์ในจังหวัดนครปฐม 2) ความคิดเห็นเกี่ยวกับ ระดับการจัดการตามหลักธรรมาภิบาลของสหกรณ์ในจังหวัดนครปฐมของผู้บริหารสหกรณ์และผู้เกี่ยวข้องกับ สหกรณ์ 3) เปรียบเทียบความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดการตามหลักธรรมาภิบาลของสหกรณ์ในจังหวัดนครปฐมของ ผู้บริหารสหกรณ์กับผู้เกี่ยวข้องกับสหกรณ์ ประชากรที่ใช้ในการศึกษา คือ ผู้บริหารสหกรณ์และผู้เกี่ยวข้องกับสหกรณ์โดยเลือกสุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง ประกอบด้วย ผู้บริหารสหกรณ์ สหกรณ์ละ 2 คน ได้แก่ ประธานกรรมการ/คณะกรรมการ 1 คน ฝ่ายจัดการสหกรณ์ 1 คน และผู้เกี่ยวข้องกับสหกรณ์ สหกรณ์ละ 2 คน ได้แก่ ผู้ตรวจสอบกิจการ 1 คน เจ้าหน้าที่ส่งเสริมสหกรณ์ 1 คน จากสหกรณ์ที่ มีสถานะดำเนินงาน 69 สหกรณ์ในจังหวัดนครปฐม ปี 2557 รวมจำนวนกลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 276 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที ผลการศึกษาพบว่า 1) ผู้บริหารสหกรณ์ส่วนใหญ่เป็น เพศชาย ร้อยละ 61.59 อายุระหว่าง 41 - 50 ปี ร้อยละ 36.96 สถานภาพสมรส เป็นส่วนใหญ่ ร้อยละ 68.84 การศึกษาระดับปริญญาตรีหรือสูงกว่า ร้อยละ 52.17 และผู้เกี่ยวข้องกับสหกรณ์ ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ร้อยละ 52.52 อายุระหว่าง 31 - 40 ปี ร้อยละ 35.25 สถานภาพสมรส เป็นส่วนใหญ่ ร้อยละ 54.68 การศึกษาระดับปริญญาตรีหรือสูงกว่า ร้อยละ 71.22 2) ความ คิดเห็นทั้งของผู้บริหารสหกรณ์และผู้เกี่ยวข้องกับสหกรณ์ที่มีต่อระดับการจัดการตามหลักธรรมาภิบาลของ สหกรณ์จังหวัดนครปฐม โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ทั้ง 6 ด้าน และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน โดย เรียงลำดับ จากมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านหลักนิติธรรม หลักความโปร่งใส หลักความคุ้มค่า หลักการมีส่วนร่วม หลัก คุณธรรม และหลักความรับผิดชอบ และ 3) ผู้บริหารสหกรณ์กับผู้เกี่ยวข้องกับสหกรณ์ มีความคิดเห็นเกี่ยวกับ การจัดการตามหลักธรรมาภิบาลของสหกรณ์ในจังหวัดนครปฐม โดยภาพรวมแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทาง สถิติที่ระดับ 0.05 แต่เมื่อพิจารณารายด้านพบว่าด้านหลักคุณธรรม หลักความรับผิดชอบ และหลักความคุ้มค่ามี ความคิดเห็นไม่แตกต่างกัน ส่วนด้านหลักนิติธรรม ด้านความโปร่งใส และหลักการมีส่วนร่วม มีความคิดเห็น แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 | th_TH |
| dc.format | application/pdf | en_US |
| dc.language.iso | th | en_US |
| dc.publisher | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช | th_TH |
| dc.rights | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช | th_TH |
| dc.rights | Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) | en_US |
| dc.rights.uri | https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0/ | en_US |
| dc.source | Born digital | en_US |
| dc.subject | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาสหกรณ์--การศึกษาเฉพาะกรณี | th_TH |
| dc.subject | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาส่งเสริมการเกษตรและสหกรณ์--การศึกษาเฉพาะกรณี | th_TH |
| dc.subject | ธรรมรัฐ | th_TH |
| dc.subject | สหกรณ์--การจัดการ | th_TH |
| dc.subject | การศึกษาอิสระ--สหกรณ์ | th_TH |
| dc.title | การจัดการตามหลักธรรมาภิบาลของสหกรณ์ในจังหวัดนครปฐม | th_TH |
| dc.title.alternative | The management of good corporate governance for Cooperatives in Nakhon Pathom Province | en_US |
| dc.type | Thesis | en_US |
| dc.degree.name | บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (สหกรณ์) | th_TH |
| dc.degree.level | ปริญญาโท | th_TH |
| dc.degree.discipline | สาขาวิชาเกษตรศาสตร์และสหกรณ์ | th_TH |
| dc.degree.grantor | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช | th_TH |
| dc.description.abstractalternative | The objectives of this research were to study 1) the personal factors of cooperative administrators and associated people in Nakhon Pathom Province; 2) their opinions on the degree to which the cooperatives adhered to the principles of Good Corporate Governance in their management; and 3 ) to compare the views of cooperatives administrators and associated people (auditors and government officials) on the degree to which the cooperatives adhered to the principles of Good Corporate Governance. The sample population for the study was obtained by randomly selecting people in the following positions: one executive (chairman or member of the board of directors) and one manager from each of the 69 cooperatives in Nakhon Pathom Province that were in operation as of 2014, and also two people associated with each of the cooperatives, consisting of one auditor and one cooperatives promotion officer, for a total of 276 samples. Data were collected using a questionnaire and statistically analyzed using frequency, percentage, mean, standard deviation and t test. The results showed that 1 ) the majority (61.59%) of cooperative administrators was male, in the age range 41 – 50 (36.96%), married (6 8.84%), and educated to bachelor’s degree level or higher (52.17%). The majority (52.52%) of people associated with the cooperatives was female, in the age range 31 – 40 (35.25%), married (54. 68%), and educated to bachelor’s degree level or higher (71.22%). 2 ) Overall, both cooperative administrators and associated people agreed that the cooperatives followed all 6 categories of Good Corporate Governance to a high level. Ranked by score, they gave the highest points for adherence to the principles of The Rule of Law, transparency, economy, participation, integrity and accountability, in that order. 3 ) There was a statistically significant difference between the cooperative administrators’ opinions and the opinions of the associated people on the degree to which the cooperatives followed the principles of Good Corporate Governance overall, but considering each principle separately, there was no statistically significant difference in the 2 groups’ opinions of the cooperatives’ adherence to the principles of integrity, accountability, and economy; there was only a statistically significant difference in their opinions on adherence to the principles of The Rule of Law, transparency, and participation (at confidence level p< 0.05). | en_US |
| Appears in Collections: | Agri-Independent study | |
Files in This Item:
| File | Description | Size | Format | |
|---|---|---|---|---|
| 146266.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 16.74 MB | Adobe PDF | View/Open |
This item is licensed under a Creative Commons License
