Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/2345
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorอรพรรณ ศรีเสาวลักษณ์, อาจารย์ที่ปรึกษาth_TH
dc.contributor.authorชวลิต พงษ์พิทักษ์, 2502--
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์th_TH
dc.date.accessioned2022-12-06T08:59:25Z-
dc.date.available2022-12-06T08:59:25Z-
dc.date.issued2551-
dc.identifier.urihttp://ir.stou.ac.th/handle/123456789/2345-
dc.description.abstractปัญหาภัยแล้งถือว่าเป็นปัญหาส่งผลกระทบค่อนข้างมากสำหรับเกษตรกรที่ทำ การเกษตรน่าฝน เนื่องจากรัฐบาลได้จ่ายเงินชดเชยความเสียหายของผลผลิตทางการเกษตรจากภัยแล้ง มาโดยต่อเนื่องและมีแนวโน้มว่ามูลค่าการชดเชยจะเพิ่มขึ้น เมื่อเกิดปัญหาภัยแล้งเกษตรกรจะได้รับ การชดเชยความเสียหายไม่ว่าจะมีสถานภาพการถือครองที่ดินที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ซึ่งประเด็นที่น่าสนใจคือแม้ว่าค่าใช้จ่ายของรัฐสำหรับการชดเชยจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่โดยทั่วไปแล้วเกษตรกรมักจะไม่ได้รับการชดเชยที่สอดคล้องกับขนาดและมูลค่าของความ เสียหายนอกจากนั้นย้งมีประเด็นที่ว่าในกรณีที่เกษตรกรไม่มีสิทธิทางกฎหมายในการถือครองที่ดิน การได้รับการชดเชยจะกลายเป็นการส่งสัญญาณเกี่ยวกับความชอบธรรมและเป็นแรงจงใจให้ เกษตรกรกล้าเสี่ยงที่จะขยายพื้นที่เพาะปลูกหรือไม่ การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาหลักการใช้จ่ายของรัฐในการชดเชย รายได้ให้เกษตรกรทั้งที่มีเอกสารสิทธิ และไม่มีเอกสารสิทธิ (2) วิเคราะห์โครงสร้างรายได้ ครัวเรือนในพื้นที่ของเกษตรกรที่ไม่มีเอกสารสิทธิในที่ดิน เพื่อหาสัดส่วนรายได้ที่เกิดจากการใช้ที่ดิน เพื่อเกษตรกรรมต่อรายได้รวม (3) เพื่อชี้ให้เห็นว่าค่าใช้จ่ายส่วนหนื่งของรัฐถูกนำไปชดเชยให้ เกษตรกรที่มีสถานภาพความเป็นเจ้าของและมีสิทธิในที่ดินไม่ชัดเจนซึ่งอาจเป็นแรงจูงใจให้ เกษตรกรบุกรุกที่ดินเพิ่มมากขึ้น ข้อมูลในการศึกษาครั้งนี้ในส่วนของข้อมูลปฐมภูมิได้จากข้าราชการที่รับผิดชอบใน การดำเนินโครงการ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาภัยแล้งให้เกษตรกร จำนวน 18 คน และจาก เกษตรกรในพื้นที่อำเภอบ่อพลอยและอำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งได้รับเงินชดเชยภัยแล้ง จำนวนอำเภอละ 30 คน รวม 60 คน ผลการศึกษาพบว่า รายได้ต่อไร่หากไม่ประสบภัยแล้งของเกษตรกรเฉลี่ยอยู่ที่ 1,344 บาท ต่อไร่ แต่เกษตรกรได้รับเงินชดเชยเฉลี่ย 574 บาท ต่อไร่ ซึ่งเฉลี่ยมูลค่าการชดเชยตํ่ากว่ารายได้ที่ เกษตรกรควรจะได้ คือได้รับการชดเชยเพียงร้อยละ 42 ขนาดการถือครองที่ดินเฉลี่ย 21 ไร่ ต่อครัวเรือน พื้นที่ผลผลิตเสียหายเฉลี่ย 17 ไร่ ต่อครัวเรีอน ซึ่งพื้นที่เสียหายและได้รับการชดเชย ตํ่ากว่าที่ควรจะได้ แต่หากพิจารณาจากความชอบธรรมในการถือครองที่ดินจะเป็นอีกประเด็นหนึ่ง ที่ควรพิจารณาว่าเกษตรกรควรมีสิทธิได้รับการชดเชยหรีอไม่th_TH
dc.formatapplication/pdfen_US
dc.language.isothth_TH
dc.publisherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rightsมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rightsAttribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0)en_US
dc.rights.urihttps://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0/en_US
dc.sourceBorn digitalen_US
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ -- การศึกษาเฉพาะกรณีth_TH
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาเศรษฐศาสตร์ -- การศึกษาเฉพาะกรณีth_TH
dc.subjectการชดใช้ค่าเสียหาย -- ไทยth_TH
dc.subjectกรรมสิทธิ์ที่ดินth_TH
dc.subjectค่าทดแทน ค่าทดแทนth_TH
dc.subjectการศึกษาอิสระ -- เศรษฐศาสตร์th_TH
dc.subjectเกษตรกร -- ไทย -- ค่าทดแทนth_TH
dc.titleการใช้จ่ายของรัฐในการชดเชยเกษตรกรที่มีสิทธิ์การใช้ที่ดินไม่สมบูรณ์ : กรณีศึกษาจังหวัดกาญจนบุรีth_TH
dc.title.alternativeA study of state's compensation to farmers without legal land ownership : a case of Kanchanaburi provinceth_TH
dc.typeThesisth_TH
dc.degree.nameเศรษฐศาสตรมหาบัณฑิตth_TH
dc.degree.levelปริญญาโทth_TH
dc.degree.disciplineสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์th_TH
dc.degree.grantorมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
Appears in Collections:Econ-Independent study

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
124679.pdfเอกสารฉบับเต็ม5.25 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons