Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/293
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorลาวัณย์ ถนัดศิลปกุลth_TH
dc.contributor.authorสุจารี ตั้งเสงี่ยมวิสัย, 2497-th_TH
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษาth_TH
dc.date.accessioned2022-08-06T08:00:36Z-
dc.date.available2022-08-06T08:00:36Z-
dc.date.issued2555-
dc.identifier.urihttp://ir.stou.ac.th/handle/123456789/293en_US
dc.descriptionวิทยานิพนธ์ (น.ม. (กฎหมายธุรกิจ))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2555th_TH
dc.description.abstractการศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ทราบถึงการคุ้มครองสุขภาพ ตามพระราชบัญญัติหลักประกัน สุขภาพ พ.ศ.2545 ของคนไทยเปรียบเทียบกับการคุ้มครองสุขภาพตามกฎหมายอื่นๆ ที่มีมาแต่เดิมอันได้แก่พระราชบัญญัติ ประกันสังคม พระราชกฤษฎีกาสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ และสิทธิอื่นๆ เป็นต้น 2) ทราบถึงระบบสุขภาพและแนวทางมาตรฐานของต่างประเทศเช่นอังกฤษ ญี่ปุ่น ไต้หวัน เป็นต้น เพื่อวิเคราะห์ให้เห็นแนวทางที่เหมาะสม สำหรับการนำมาปรับปรุง แก้ไข พระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพของไทยในการให้ความคุ้มครองสุขภาพของประชาชนคนไทยให้มีความเป็นธรรมและเสมอภาคยิ่งขึ้น 3) เสนอแนะแนวทางในการจัดทำร่างกฎหมายประกันสุขภาพของประเทศไทยอย่างเหมาะสมในอนาคตเมื่อมีการพัฒนา หรือปฏิรูปการดำเนินงาน ทางด้านระบบสุขภาพเพื่อให้มีความเท่าเทียมกันและช่วยลดความเหลื่อมล้ำในการรับบริการทางด้านสุขภาพแก่ประชาชนทุกๆ กลุ่มในประเทศการศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงคุณภาพได้แก่ การวิจัยเอกสาร (Documentary Research) โดยวิธีการรวบรวมเอกสารจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ซึ่งได้แก่พระราชบัญญัติ พระราชกฤษฎีกา บทความ งานวิจัย วิทยานิพนธ์ หนังสือตำราเอกสารในรูปแบบอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศรวมทั้งแหล่งข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตนำข้อมูลมาแยกแยะ จัดเป็นหมวดหมู่โดยทำการศึกษาถึงหลักเกณฑ์ และวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ ให้สอดคล้องกับประเด็นที่ได้ตั้งเอาไว้ ผลการศึกษา พบว่า 1) กฎหมายประกันสุขภาพของทั้ง 3 ระบบใหญ่ๆ มีความแตกต่างกันอย่างมากมีความเหลื่อมล้ำของ ทั้งระบบประกันสังคม สวัสดิการข้าราชการและหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทั้งนี้เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นปัญหาทางด้านเงินงบประมาณ ซึ่งมีให้อย่างจำกัด ประกอบกับ หลักเกณฑ์ต่างๆ ที่กำหนดไว้ในกฎหมายกฎกระทรวงกฎระเบียบ ยังไม่สอดคล้อง ต่อเนื่องกันอย่างเป็นระบบ ยังมีความแตกต่างกัน ไม่เป็นเอกภาพ ขาดความชัดเจน ขาดความเป็นรูปธรรมของการบริการ 2) ระบบสุขภาพของต่างประเทศพบว่า ประเทศไต้หวัน มีสิ่งที่ ไทยน่าจะนำมาประยุกต์ใช้ได้กับกฎหมายหลักประกันสุขภาพแห่งชาติของไทย กล่าวคือ การที่ไต้หวันได้รวบรวมเอากฎหมายประกันสุภาพต่างๆ ที่มีอยู่แต่เดิมทั้งหมดเข้ามาอยู่ภายใต้การดูแลของระบบประกันสุขภาพแห่งชาติ และไม่อยู่ภายใต้เงื่อนไขของกฎหมายที่เกี่ยวกับสุขภาพอื่นใด โดยให้สิทธิประโยชน์มากกว่าระบบประกันสุขภาพแบบเดิม ที่มีอยู่ มีการควบคุม ดูแล ตรวจสอบ คุณภาพการให้บริการที่ดีพอ และวางระบบการจ่ายเงินให้โรงพยาบาลที่เป็นธรรม และคล่องตัว 3) ควรจัดระบบประกันสุขภาพเป็นระบบเดียวโดยมีพื้นฐานที่เท่าเทียมกัน หรือระบบประกันสุขภาพแห่งชาติ ที่ให้บุคคลทุกกลุ่ม อย่างครอบคลุมกันทั้งประเทศ แต่อาจแตกต่างกันที่รายละเอียด หรือให้ผู้ใช้สิทธิรักษาฟรีเดิม แต่อาจจ่ายเงินเพิ่มโดยให้สิทธิประโยชน์มากกว่าระบบประกันสุขภาพแบบเดิมที่มีอยู่ในแต่ละรูปแบบการรักษา การออกพระราชกฤษฎีกาให้มีการยุบรวมเป็นระบบเดียวที่มีเอกภาพ จะทำให้ง่ายในการบริหารจัดการ แต่หากยุบรวมไม่ได้ ก็ต้องมีการกำหนดมาตรฐานการรักษาขั้นพื้นฐาน ที่เท่าเทียมกัน หรืออาจจะต้องทำให้ทุกระบบ มีระบบการบริหารจัดการ และมีสิทธิประโยชน์ที่เหมือนกันได้th_TH
dc.formatapplication/pdfen_US
dc.language.isothen_US
dc.publisherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.relation.urihttps://www.doi.org/10.14457/STOU.the.2012.416en_US
dc.rightsมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rightsAttribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0)en_US
dc.rights.urihttps://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0/en_US
dc.sourceBorn digitalen_US
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วิชาเอกกฎหมายธุรกิจ--วิทยานิพนธ์th_TH
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิติศาสตร์--วิทยานิพนธ์th_TH
dc.subjectสุขภาพ--กฎหมายและระเบียบข้อบังคับth_TH
dc.titleการศึกษาเปรียบเทียบการบริการสุขภาพของไทยตามพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 กับการบริการสุขภาพตามกฎหมายอื่น และการบริการสุขภาพของต่างประเทศth_TH
dc.title.alternativeComparative study of Thai health service under the National Healh Act B. E. 2545 and the other health service acrs and some other countries health serviceen_US
dc.typeThesisen_US
dc.identifier.DOI10.14457/STOU.the.2012.416-
dc.identifier.urlhttps://www.doi.org/10.14457/STOU.the.2012.416en_US
dc.degree.nameนิติศาสตรมหาบัณฑิตth_TH
dc.degree.levelปริญญาโทth_TH
dc.degree.disciplineสาขาวิชานิติศาสตร์th_TH
dc.degree.grantorมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.description.abstractalternativeThe purposes of this study are 1) to understand Health protection according to the Thailand's National Health Security Act (2002) and compare with other Health Protection Acts that was formerly existed, for example, the Social Security Act, the Royal Decree of government official's health protection, etc. 2) to understand health systems and International standard of other countries such as the United Kingdom, Japan, Taiwan in order to analyze the appropriate guideline for improving Thailand's National Health Security Act for the purpose of protecting Thai citizens' health with fair and greater equality 3) to propose guidance for preparing the draft of Thailand’s National health Security Laws in the future once there will be health systems development or reformation in order to reduce disparities and provide the equality in the health care service to all citizens in the country. This research is a qualitative research (documentary research) by collecting the documents from various sources which are acts, researches, thesis, articles, textbooks, and documents in other formats from Thailand and International sources including Information on the internet. The information and data were organized as a separate category and have been conducted the systematic study and analysis in order to be consistent with the set topic. This study shows that 1) Health Protection Acts of the three systems are totally different, Social Security, Government Officer Welfare and Universal Health Care Coverage. The problems caused by a limited budget as well as the inconsistency of non-methodical laws and regulations, also lack of unity, clarity and concrete of service. 2) Due to health care system in Taiwan, they gather all of the Health Protection Acts to come underneath the Nation Health Security which was not involved with any health laws and give more enefit by controlling, checking service quality and make money's plan for the hospital by fairness and more flow. So that Thailand should adapt those systems to combine with Health Protection Acts of Thailand. 3) They need to systemize the Health Care system into one system based on National health security and equality to all people in the country; it might have some different details such as who want to have more privileges need to pay more money in a new system. In order to easily execute the law and being unity, the royal decree should combine all the laws into one system , but if it is unable to take any actions, then it is necessary to lay down a rule of Health care standard or set all systems to be equal, to streamline the health system to be more effective and even services.en_US
dc.contributor.coadvisorประกาย วิบูลย์วิภาth_TH
Appears in Collections:Law-Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Thesbib133786.pdfเอกสารฉบับเต็ม16.14 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons