Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/6892
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorนวลเสน่ห์ วงศ์เชิดธรรมth_TH
dc.contributor.authorณัฏฐชัย ไพบูลย์สุข, 2523-th_TH
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษาth_TH
dc.date.accessioned2023-06-29T03:57:52Z-
dc.date.available2023-06-29T03:57:52Z-
dc.date.issued2555-
dc.identifier.urihttps://ir.stou.ac.th/handle/123456789/6892en_US
dc.descriptionวิทยานิพนธ์ (บธ.ม. (บริหารธุรกิจ))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2555th_TH
dc.description.abstractการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) ปัญหาการตรวจสอบภายในของผู้ตรวจสอบภายในและผู้รับตรวจ (2) ความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลส่วนบุคคลกับปัญหาการตรวจสอบภายในของผู้ตรวจสอบภายใน (3) ความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลส่วนบุคคลกับปัญหาการตรวจสอบภายในของผู้รับตรวจ และ (4) ข้อคิดเห็นข้อเสนอแนะเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตรวจสอบภายในของกองทัพอากาศ การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ ประชากรแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กรรมการตรวจสอบภายใน กองทัพอากาศ จำนวน 60 คน และผู้รับการตรวจสอบภายในของกองทัพอากาศ แบ่งเป็ น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มหัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองทัพอากาศ จำนวน 10 คน และระดับผู้ปฏิบัติงาน ด้านการงบประมาณ ด้านการเงิน การบัญชี ด้านการพัสดุและทรัพย์สิน และด้านการจัดซื้อ/จัดจ้างและก่อสร้าง ในหน่วยขึ้นตรงกองทัพอากาศ จำนวน 340 คน โดยกำหนดพื้นที่สำหรับกลุ่มตัวอย่างตามหน่วยขึ้นตรงกองทัพอากาศ ทั้ง 5 ส่วน เครื่องมือที่ใช้ เป็นแบบสอบถามการวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย การแจงแจงความถี่ และไคสแควร์ ผลการวิจัยพบว่า (1) ปัญหาในการตรวจสอบภายในของผู้ตรวจสอบภายในและผู้รับตรวจ ในส่วนของผู้รับตรวจไม่พบปัญหา แต่ในส่วนของผู้ตรวจสอบภายในมีปัญหาที่พบใน ด้านความเชี่ยวชาญและ ความระมัดระวังรอบคอบ ด้านการบริหารงานตรวจสอบภายใน ด้านลักษณะของงานตรวจสอบภายใน ด้านการวางแผนการปฏิบัติงาน และด้านการปฏิบัติงาน (2) ความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลส่วนบุคคลกับปัญหา การตรวจสอบภายในของผู้ตรวจสอบภายใน พบว่า ค่าข้อมูลส่วนบุคคลในด้านเพศ ด้านอายุ ด้านระดับการศึกษา และด้านชั้นยศของผู้ตรวจสอบภายในมีความสัมพันธ์กับปัญหาในการตรวจสอบภายในที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 (3) ความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลส่วนบุคคลกับปัญหาการตรวจสอบภายในของผู้รับตรวจ พบว่า ค่าข้อมูล ส่วนบุคคลในด้านเพศ ด้านอายุ ด้านระดับการศึกษา และด้านชั้นยศของผู้รับตรวจมีความสัมพันธ์กับปัญหา ในการตรวจสอบภายในที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 (4) ควรมีการศึกษาสาเหตุที่เกิดขึ้นของปัญหาการตรวจสอบ ภายใน โดยการจัดการประชุมวิชาการ สัมมนาทางวิชาการ ประชุมกลุ่ม เพื่อวิเคราะห์หาสาเหตุที่แท้จริง ของปัญหาที่เกิดขึ้น รวมถึงวิธีการแก้ไขปัญหา และใช้ข้อมูลเป็นแนวทางในการปรับปรุง แก้ไข เพื่อเป็น การพัฒนาการตรวจสอบภายในของกองทัพอากาศให้งานด้านการตรวจสอบภายในมีคุณภาพ มีประสิทธิภาพและมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับth_TH
dc.formatapplication/pdfen_US
dc.language.isothen_US
dc.publisherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.relation.urihttps://www.doi.org/10.14457/STOU.the.2012.106en_US
dc.rightsมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rightsAttribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0)en_US
dc.rights.urihttps://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0/en_US
dc.sourceBorn digitalen_US
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาวิทยาการจัดการ--วิทยานิพนธ์th_TH
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาบริหารธุรกิจ--วิทยานิพนธ์th_TH
dc.subjectกองทัพอากาศ--ไทยth_TH
dc.subjectการตรวจสอบภายในth_TH
dc.titleการศึกษาปัญหาในการตรวจสอบภายในของกองทัพอากาศth_TH
dc.title.alternativeStudy of internal audit problems of the Royal Thai Air Forceth_TH
dc.typeThesisth_TH
dc.degree.nameบริหารธุรกิจมหาบัณฑิตth_TH
dc.degree.levelปริญญาโทth_TH
dc.degree.disciplineสาขาวิชาวิทยาการจัดการth_TH
dc.degree.grantorมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.description.abstractalternativeThis study aimed to examine (1) problems the audit of the internal auditors and auditee (2) the relationship between personal information with an internal audit of the internal auditor (3) the relationship between privacy issues and auditee (4) comments and suggestions concerning internal audit of the Royal Thai Air Force. This research is a research survey. The population was divided into two groups: 60 of the internal auditor within the Royal Thai Air Force, and the auditee of the Royal Thai Air Force were divided into 2 groups included, 10 of the chief of the Royal Thai Air Force commanders and practitioners in budget, in financial accounting, parcel and property, procurement /contracting and construction under direct command of the Royal Thai Air Force, 340 units were set up in the area, for example by the Royal Thai Air Force in 5 divisions. Tool used were a questionnaire, data analysis using were percentage, mean, frequency and chi-square obvious. The results showed that (1) the issue in the audit of the internal auditors and the auditee. The auditee does not detect a problem. But in most of the problems found in the audit were expertise and prudent, audit management nature of internal audit, planning practice, and operation (2) the relationship between privacy issues and internal audit of the internal auditor found that personal information such as gender, age, education level, and the rank of the internal auditor in relation to the problem of internal audit at the level of 0.05 (3) the relationship between privacy issues and auditee found that. The age, sex, education, and the rank of the auditee had relation to the problem had significant at the level of 0.05 (4) the causes of internal audit problem should be identify by the conference, and seminar meetings in order to determine the exact cause. The problem includes how to fix the problem, and use the information as a guide to improve the development of the internal audit of the Royal Thai Air Force to work on the audit quality effective by and up to standards.en_US
dc.contributor.coadvisorสุนา สุทธิเกียรติth_TH
Appears in Collections:Manage-Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
135263.pdfเอกสารฉบับเต็ม5.5 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons