Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/7701
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorสุชาดา สถาวรวงศ์, อาจารย์ที่ปรึกษาth_TH
dc.contributor.authorวิภาวรรณ ปานกลิ่นพุฒ, 2527-th_TH
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาวิทยาการจัดการth_TH
dc.date.accessioned2023-07-13T08:43:53Z-
dc.date.available2023-07-13T08:43:53Z-
dc.date.issued2555-
dc.identifier.urihttps://ir.stou.ac.th/handle/123456789/7701-
dc.description.abstractการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) รายการที่ทำให้เกิดผลแตกต่างชั่วคราวตามมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 12 เรื่องภาษีเงินได้ของบริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (2) ผลกระทบจากการใช้มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 12 เรื่องภาษีเงินได้ที่มีต่อฐานะทางการเงินของบริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ (3) ผลกระทบจากการใช้มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 12 เรื่องภาษีเงินได้ที่มีต่อผลการดำเนินงานของบริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประชากรที่ศึกษาคือ บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกลุ่มธุรกิจการเงิน จำนวน 22 บริษัท ที่นำมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 12 เรื่องภาษีเงินได้มาปฏิบัติในการจัดทำงบการเงินสำหรับงวดบัญชีปี 2554 เครื่องมือที่ใช้คือ แบบวิเคราะห์ข้อมูล สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ความถี่ และร้อยละ ผลการวิจัยพบว่า (1) ผลแตกต่างชั่วคราวที่ทำให้เกิดสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอตัดบัญชีมาก ที่สุด คือ รายการค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ รองลงมา คือ ผลประโยชน์พนักงาน ส่วนผลแตกต่างชั่วคราวที่ทำให้เกิดหนี้สินภาษีเงินได้รอตัดบัญชีมากที่สุด คือรายการกำไร (ขาดทุน) ที่ยังไม่เกิดจากเงินลงทุน รองลงมา คือ ส่วนเกินทุนจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่าเงินลงทุน (2) การใช้มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 12 เรื่อง ภาษีเงินได้ ในภาพรวมมีผลกระทบน้อยมากต่อฐานะการเงินของบริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงิน โดย อัตราร้อยละของสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอตัดบัญชีต่อสินทรัพย์รวมของกลุ่มธุรกิจนี้ เท่ากับ 3.72 และอัตราร้อยละของหนี้สินภาษีเงินได้รอตัดบัญชีต่อสินทรัพย์รวม เท่ากับ 0.44 ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำมาก (3) การใช้ มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 12 เรื่อง ภาษีเงินได้ มีผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงิน ในภาพรวมบริษัทในกลุ่มนี้เสียภาษีเงินได้เพิ่มขึ้นจาก จำนวนที่ได้บันทึกบัญชีไว้คิดเป็นร้อยละ 11.03 ของภาษีเงินได้ทางบัญชีการเงิน โดยหมวดธุรกิจที่เสียภาษีเพิ่มขึ้นมากที่สุดคือ หมวดธนาคารส่วนหมวดธุรกิจที่เสียภาษีลดลงคือ หมวดเงินทุนและหลักทรัพย์th_TH
dc.formatapplication/pdfen_US
dc.language.isoenth_TH
dc.publisherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rightsมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rightsAttribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0)en_US
dc.rights.urihttps://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0/-
dc.sourceBorn digitalen_US
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาวิทยาการจัดการ --การศึกษาเฉพาะกรณีth_TH
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาบริหารธุรกิจ --การศึกษาเฉพาะกรณีth_TH
dc.subjectการบัญชี--กฎหมายและระเบียบข้อบังคับth_TH
dc.subjectภาษีเงินได้นิติบุคคลth_TH
dc.subjectบริษัทเงินทุน--ภาษีth_TH
dc.subjectสถาบันการเงิน--ภาษีth_TH
dc.subjectบริษัท--การเงินth_TH
dc.subjectการศึกษาอิสระ--บริหารธุรกิจth_TH
dc.titleผลกระทบของการใช้มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 12 เรื่อง ภาษีเงินได้ต่องบการเงินของบริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยth_TH
dc.title.alternativeThe impacts of adopting accounting standard 12 : income taxes on financial statement of the financial business companies listed in the Stock Exchange of Thailandth_TH
dc.typeThesisth_TH
dc.degree.nameบริหารธุรกิจมหาบัณฑิตth_TH
dc.degree.levelปริญญาโทth_TH
dc.degree.disciplineสาขาวิชาวิทยาการจัดการth_TH
dc.degree.grantorมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
Appears in Collections:Manage-Independent study

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
136681.pdf11.97 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons