Please use this identifier to cite or link to this item:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/9134
Title: | ปัจจัยที่ก่อให้เกิดความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจพลังงาน กรณีศึกษาบริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรี โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) |
Other Titles: | Competencies study of energy business : a case of Ratchaburi Electricity Generating Holding Public Company Limited |
Authors: | ธนชัย ยมจินดา ศศิธร สำเภา, 2519- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาวิทยาการจัดการ |
Keywords: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาบริหารธุรกิจ --การศึกษาเฉพาะกรณี บริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรี โฮลดิ้ง--การบริหาร พลังงาน--ไทย ไฟฟ้า--การผลิต การแข่งขัน การศึกษาอิสระ--บริหารธุรกิจ |
Issue Date: | 2546 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
Abstract: | ความสำคัญของปัญหา การแปรรูปของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โดยจัดตั้งเป็นบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายในปี 2547 เป็นสิ่งที่มีผลกระทบและท้าทายความสามารถของบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี โการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาระดับความพึงพอใจในการปฏิบัติงามของพนักงานธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ที่ปฏิบัติงานที่สำนักงานใหญ่)ในภาพรวมและแขกแต่ละด้าน ได้เเก่ ด้านนโยบายและการบริหารงาน รายได้และสวัสดิการ งานที่ปฏิบัติ ความก้าวหน้าในการทำงาน การบังคับบัญชา ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน และสภาพแวดล้อมในการทำงาน และ (2) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะส่วนบุคคลของพนักงานธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ได้แก่ อายุ ระดับการศึกษา ระดับตำแหน่งรายได้ และระยะเวลาการปฏิบัติงาน กับความพึงพอใจในการปฏิบัติงานในภาพรวมแต่ละด้านเพื่อนำผลการศึกษาไปเสนอแนะแก่ผู้บริหารเพื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุงและบริหารงานด้านทรัพยากรมนุษย์ของธนาคาร เพื่อเสริมสร้างให้บุคลากรมีความพึงพอใจในการปฏิบัติงานและก่อให้เกิดประสิทธิภาพต่อองค์กรมากยิ่งขึ้นกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาเป็นพนักงานธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ที่ปฏิบัติงานที่สำนักงานใหญ่) จำนวน 208 ราย กำหนดขนาดตัวอย่างโดยใช้สูตรความคลาดเคลื่อนมาตรฐาน และเลือกตัวอย่างโดยวิธีแบ่งชั้นภูมิ ได้จำนวนวนผู้ตอบแบบสอบถามกลับคืนมาจำนวน 199 ราย เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาคือแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป SPSS ค่าสถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานค่าสถิติ F-testผลการศึกษาพบว่า (1) กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุระหว่าง 25 - 30 ปีการศึกษาระดับปริญญาตรี ระดับตำแหน่งชำนานาญการ ระดับรายได้ 20,001 - 25,000 บาท ระชะเวลาในการปฏิบัติงานมากกว่า 5 ปี แต่ไม่เกิน 8 ปี (2) ความพึงพอใจในการปฏิบัติงานในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง ส่วนความพึงพอใจในแต่ละด้านพบว่า ด้านความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานด้านสภาพแวดล้อมในการทำงาน ด้านการบังคับบัญชา อยู่ในระดับดี สำหรับด้านงานที่ปฏิบัฏิบัติด้านรายได้และสวัสดิการ ด้านนโยบายและการบริหารงาน และด้านความก้าวหน้าในการทำงานมีความพึงพอใจในระดับปานกลาง (3) พนักงานที่มีลักษณะบุคคลเเตกต่างกันจะมีระดับความพึ่งพอใจในการปฏิบัติงานในภาพรวม แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ในบางด้านเท่านั้นโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เป็นอย่างยิ่ง เพราะถือว่าเป็นการแข่งขันกันเองในธุรกิจเดียวกัน โดยไม่มีการสนับสนุนจากภาครัฐ องค์กรจึงต้องมีการปรับตัวเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารจัดการให้เกิดความพร้อม ภายใต้การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นวัดถุประสงค์ เพื่อศึกษาถึงปัจจัยที่ก่อให้เกิดความสามารถในการแข่งขันของกิจการทั้งในปัจจุบันและอนาคตวิธีดำเนินการศึกษา การศึกษาเชิงสำรวจครั้งนี้ มีจุดประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัย 14 ค้านที่ก่อให้เกิดความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจพลังงาน กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้บริหารทั้งหมดจำนวน 19 คน ในบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี โฮลดิ้ง จำกัค (มหาชน) เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามมาตรประมาณค่าเกี่ยวกับระดับความคิดเห็นต่อปัจจัยที่ก่อให้เกิดความสามารถในการแข่งขันในปัจจุบันและอนากต สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ก่าจำนวน ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป SPSS ซึ่งกำหนดระดับความเชื่อมั่นที่ระดับ 0.95 ผลการศึกษา พบว่าส่วนใหญ่เป็นเพศชาย มีอายุระหว่าง 35 - 44 ปี การศึกษาอยู่ในระดับปริญญาโท มีอายุงานในตำแหน่งานปัจจุบันต่ำกว่า 3 ปี โดยกลุ่มตัวอย่างมีความเห็นสอดคล้องตรงกันว่า ในปัจจุบันกิจการมีความสามารถในการแข่งขันในระดับปานกลางเท่านั้นเนื่องจากกิจการให้ความสำคัญโดยมีการใช้และปฏิบัติจริงสำหรับปัจจัยเพียงบางค้าน ได้แก่ ปัจจัยทางด้านการบริหารการเงินและต้นทุน ด้านวิสัยทัศน์ ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการผลิต และค้านการตอบสนองความพึงพอใจของลูกค้า ส่วนในอนาคตนั้น กลุ่มตัวอย่างให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกันอย่างชัดเจน โดยมีความคาดหวังที่จะนำปัจจัยทั้ง 14 ด้าน มาใช้ปฏิบัติ เพื่อให้เกิดความสามารถในการแข่งขันในระดับมาก |
URI: | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/9134 |
Appears in Collections: | Manage-Independent study |
This item is licensed under a Creative Commons License