Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/10250
Title: บทบาทผู้บริหารท้องถิ่นในการสร้างค่านิยมวัฒนธรรมประชาธิปไตย : กรณีศึกษาองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหลวง อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
Other Titles: Role of local governor in supporting democratic culture values : a case study of Ban Luang Sub-district Administration Organization Sena District, Ayutthaya Province
Authors: พิศาล มุกดารัศมี
รัชศักดิ์ รอดเงิน, 2508-
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชารัฐศาสตร์
Keywords: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาการเมืองการปกครอง--การศึกษาเฉพาะกรณี
องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหลวง--การบริหาร
ประชาธิปไตย--ไทย
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชารัฐศาสตร์--การศึกษาเฉพาะกรณี.
Issue Date: 2552
Publisher: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
Abstract: การวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) บทบาทของผู้บริหารท้องถิ่นในการสร้างค่านิยมวัฒนธรรมประชาธิปไตย (2) ปัญหาอุปสรรคในการสร้างค่านิยมวัฒนธรรมประชาธิปไตยของผู้บริหารท้องถิ่น การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยการสัมภาษณ์แบบเจาะลึก กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ กลุ่มนักการเมืองและข้าราชการในองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหลวง กลุ่มประชาสังคม กลุ่มสภาประชาชนตำบลบ้านหลวง กลุ่มผู้นำท้องที่และอาสาสมัครชุมชน รวมกลุ่มตัวอย่าง 18 คน นำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนา ผลการวิจัย พบว่า (1) บทบาทผู้บริหารท้องถิ่น คือ การฝึกฝนให้ประชาชนเกิดความรู้ความเข้าใจในกระบวนการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย มีการกล่อมเกลาทางการเมือง เริ่มตั้งแต่การสรรหาบุคคลเข้าสู่ระบบการเมือง จัดกิจกรรมวิถีชีวิตแบบประชาธิปไตยในหมู่บ้าน จัดตั้งกลุ่มองค์กรในพื้นที่ให้คัดเลือกผู้บริหารและการถอดถอนผู้บริหาร สร้างกระบวนการมีส่วนร่วม จัดทำแผนพัฒนาตามความต้องการของประชาชน ปฏิรูปการเมืองท้องถิ่นให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ สร้างจริยธรรมคุณธรรมทางการเมือง นำเสนอข้อมูลข่าวสารอย่างทั่วถึง (2) ปัญหาอุปสรรค คือการฝึกฝนหรือจัดกิจกรรมเพื่อให้ประชาชนเกิดการซึมซับระบอบประชาธิปไตยเป็นไปอย่างยากลำบากเนื่องจากยังไม่มีความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จริงต่อหลักการของระบอบประชาธิปไตย สภาพพื้นฐานของสังคมยังแบ่งพรรคแบ่งพวก ขาดการร่วมมือทางการเมือง ความตื่นตัวทางการเมืองอยู่ในระดับต่ำ ใช้เสียงส่วนใหญ่ในการตัดสินแพ้ชนะโดยไม่สนใจเสียงส่วนน้อย และไม่สนใจรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ ยึดตัวบุคคลมากกว่าหลักเกณฑ์ กติกา การเข้าร่วมทางการเมืองก็จะป็นไปเพื่อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องเป็นหลัก
URI: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/10250
Appears in Collections:Pol-Independent study

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
127284.pdfเอกสารฉบับเต็ม5.21 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons