กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/10701
ชื่อเรื่อง: | บทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาในการจัดการเทคโนโลยีตามหลักธรรมาภิบาล สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ |
ชื่อเรื่องอื่นๆ: | The roles in technological management based on the good governance principle of school administrators under local administrative organizations in Pran Buri District, Prachuap Khiri Khan Province |
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: | สฤษดิ์พงษ์ ลิมปิษเฐียร, อาจารย์ที่ปรึกษา รินท์ลภัส คูณสวัสดิ์, 2524- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ |
คำสำคัญ: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาบริหารการศึกษา --การศึกษาเฉพาะกรณี ธรรมรัฐ การรู้จักใช้เทคโนโลยี การศึกษาอิสระ--บริหารการศึกษา |
วันที่เผยแพร่: | 2562 |
สำนักพิมพ์: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
บทคัดย่อ: | การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาบทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาในการจัดการเทคโนโลยีตามหลักธรรมาภิบาล สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และ 2) เปรียบเทียบบทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาในการจัดการเทคโนโลยีตามหลักธรรมาภิบาล สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำแนกตามวุฒิการศึกษา และวิทยฐานะ กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยเป็นข้าราชการครู จำนวน 136 คน ซึ่งแบ่งเป็นผู้บริหารสถานศึกษา 18 คน และครูผู้สอน 118 คน ที่ปฏิบัติงานอยู่ในสถานศึกษาสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามแบบมาตรประมาณค่า มีค่าความเที่ยงเท่ากับ .98 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และการทดสอบความแตกต่างรายคู่ด้วยวิธีการของเชฟเฟ่ ผลการวิจัยปรากฏว่า (1) ผู้บริหารสถานศึกษามีบทบาทในการจัดการเทคโนโลยีตามหลักธรรมาภิบาล ในภาพรวมและเป็นรายด้านอยู่ในระดับมาก โดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ย ดังนี้ ด้านหลักคุณธรรม ด้านหลักการมีส่วนร่วม ด้านหลักนิติธรรม ด้านหลักความรับผิดชอบ ด้านหลักความโปร่งใส และด้านหลักความคุ้มค่า และ (2) ผลการเปรียบเทียบบทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาในการจัดการเทคโนโลยีตามหลักธรรมาภิบาล จำแนกตามวุฒิการศึกษา และวิทยฐานะ มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 |
URI: | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/10701 |
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล: | Edu-Independent study |
แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม | รายละเอียด | ขนาด | รูปแบบ | |
---|---|---|---|---|
166594.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 15.29 MB | Adobe PDF | ดู/เปิด |
รายการนี้ได้รับอนุญาตภายใต้ Creative Commons License