Please use this identifier to cite or link to this item:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/10738
Title: | การจัดการการผลิตมะพร้าวนํ้าหอมแบบแปลงใหญ่ของเกษตรกร อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร |
Other Titles: | Aromatic coconut production panagement of collaborative farming of farmer in Ban Phaeo District, Samut Sakhon Province |
Authors: | จรรยา สิงห์คำ, อาจารย์ที่ปรึกษา พลสราญ สราญรมย์, อาจารย์ที่ปรึกษา ขนิษฐา ยินดี, 2536- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา |
Keywords: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาการจัดการการเกษตร --วิทยานิพนธ์ มะพร้าว--การปลูก มะพร้าว--การผลิต มะพร้าว--แง่เศรษฐกิจ เกษตรกร--ไทย--สมุทรสาคร |
Issue Date: | 2563 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
Abstract: | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวน้ำหอมแบบแปลงใหญ่อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร ในประเด็นต่อไปนี้ 1) สภาพเศรษฐกิจและสังคม 2) การจัดการการผลิต 3) ความคิดเห็นของเกษตรกร และ 4) สภาพปัญหาและข้อเสนอของเกษตรกร ประชากรที่ศึกษา คือ เกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวน้ำหอมแบบแปลงใหญ่ อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร ที่ขอจัดตั้งกลุ่มแปลงใหญ่กับสำนักงานเกษตรอำเภอ ปี 2559 - 2562 จำนวนทั้งหมด 102 ราย เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้างและวิเคราะห์ข้อมูลจากประชากรทั้งหมดโดยโปรแกรมสำเร็จรูปด้วยสถิติพรรณนา ได้แก่ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าต่ำสุด ค่าสูงสุด ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1) เกษตรกรเป็นเพศชายและหญิงเท่ากัน ร้อยละ 50 อายุมากกว่า 60 ปี มีการศึกษาในระดับประถมศึกษา ประสบการณ์ปลูกมะพร้าวน้ำหอมมากกว่า 20 ปี สมาชิกในครัวเรือนเฉลี่ย 4 ราย ทำการเกษตร 2 ราย มีการจ้างแรงงาน 1 ราย พื้นที่การเกษตรเฉลี่ย 19.33 ไร่ เป็นของตนเอง มีรายได้จากการปลูกมะพร้าวน้ำหอมเป็นหลัก ใช้เงินทุนตนเองในการผลิต ต้นทุนอยู่ที่ 1,000 - 5,000 บาท/ไร่ 2) เกษตรกรปลูกมะพร้าวน้ำหอมแบบยกร่อง ใช้น้ำจืดจากธรรมชาติ ไม่วิเคราะห์ดิน ขุดหลุมปลูกขนาด 0.5x0.5x0.5 เมตร ระยะปลูกขนาด 6x6 เมตร จำนวน 40.18 ต้น/ไร่ ปลูกช่วงเดือน พ.ค. - ส.ค. แบบแถวเดี่ยว มะพร้าวน้ำหอมที่ปลูกคือพันธุ์ก้นจีบ คัดพันธุ์จากแปลงที่น่าเชื่อถือในพื้นที่ ใช้ต้นพันธุ์อายุ 2-4 เดือน มีการวิเคราะห์น้ำ ให้น้ำโดยใช้เรือพ่น ให้น้ำหลังปลูก 1 วันเฉลี่ย 5.13 ครั้ง/เดือน ใส่ปุ๋ยเฉลี่ย 4.92 ครั้ง/ปี เฉลี่ย 28.5 กก./ไร่ โดยหว่านรอบทรงพุ่ม กำจัดวัชพืชเฉลี่ย 2.74 ครั้ง/ปี ด้วยวิธีผสมผสาน พบด้วงแรด กระรอก มีการลอกเลนปีละ 1 ครั้ง ไม่นิยมปลูกพืชแซม ไม่ใส่เกลือในแปลงเก็บผลผลิตหลังปลูก 3 ปี เก็บทุก 20 วัน ขายผลสดผ่านพ่อค้าคนกลาง พ่อค้าเป็นผู้เก็บเกี่ยวและกำหนดราคา ผลผลิต (ปี 2562) เฉลี่ย 29,362.75 ผล/ไร่ ราคาเฉลี่ย 16.24 บาท/ผล ไม่ทำสัญญาซื้อขายและไม่สมทบทุนเข้ากลุ่ม มีการบันทึกข้อมูลการผลิต เกษตรกรเข้าร่วมโครงการเพราะเจ้าหน้าที่รัฐให้การสนับสนุนให้คำแนะนำ เกษตรกรคาดหวังการรวมกลุ่มจะช่วยลดต้นทุนการผลิตได้ 3) เกษตรกรมีความคิดเห็นต่อความสำคัญของโครงการแปลงใหญ่มะพร้าวน้ำหอม การพัฒนาแปลงใหญ่ ทั้ง 5 ด้าน คือลดต้นทุน, เพิ่มผลผลิต, พัฒนาคุณภาพ, บริหารจัดการกลุ่ม, การตลาดและการดำเนินงานของนักส่งเสริมการเกษตร พบว่ามีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก 4) ปัญหาที่พบ คือต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น และการรวมกลุ่มเกษตรกรไม่เข้มแข็ง ควรให้เกษตรกรนำเทคโนโลยี นวัตกรรมเป็นเครื่องมือในการลดต้นทุนการผลิต หน่วยงานภาครัฐให้ความสำคัญและมุ่งเน้นการสร้างความเข้มแข็งของกลุ่มอย่างยั่งยืน |
Description: | วิทยานิพนธ์ (กษ.ม. (การจัดการทรัพยากรเกษตร))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2563 |
URI: | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/10738 |
Appears in Collections: | Agri-Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
FULLTEXT.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 13.22 MB | Adobe PDF | View/Open |
This item is licensed under a Creative Commons License