1. STOUIR at Sukhothai Thammathirat Open University
  2. Dissertation Thesis & Independent study
  3. School of Educational Studies
  4. Edu-Theses
Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/10979
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorเจียรนัย ทรงชัยกุล, อาจารย์ที่ปรึกษาth_TH
dc.contributor.advisorวัลภา สบายยิ่ง, อาจารย์ที่ปรึกษาth_TH
dc.contributor.authorลาวัลย์ นวลเสน่ห์-
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษาth_TH
dc.date.accessioned2023-12-21T08:22:25Z-
dc.date.available2023-12-21T08:22:25Z-
dc.date.issued2553-
dc.identifier.urihttps://ir.stou.ac.th/handle/123456789/10979-
dc.descriptionวิทยานิพนธ์ (ศษ.ม. (การแนะแนว))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2553th_TH
dc.description.abstractการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เปรียบเทียบพฤติกรรมยุติธรรมของนักเรียน ระหว่างกลุ่มทดลองที่ได้ใช้ชุดกิจกรรมแนะแนวเพื่อพัฒนาพฤติกรรมยุติธรรม และกลุ่มควบคุมที่ ได้ใช้กิจกรรมแนะแนวอื่น ๆ (2) เปรียบเทียบพฤติกรรมยุติธรรมของนักเรียนกลุ่มทดลองที่มี ลักษณะมุ่งอนาคตและควบคุมตนต่างกัน และ (3) เปรียบเทียบพฤติกรรมยุติธรรมของนักเรียนกลุ่ม ทดลองที่มีภูมิหลังทางชีวสังคมต่างกัน กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ปีการศึกษา 2553 ของโรงเรียนตรังคริส เตียนศึกษา จังหวัดตรัง จำนวน 60 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม 2 ห้องเรียน จากนั้นสุ่มเข้ากลุ่ม 2 กลุ่ม กลุ่มละ 30 คน และสุ่มเพื่อกำหนดเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย แบบสอบถามภูมิหลังทางชีวสังคม แบบวัดพฤติกรรมยุติธรรม มีค่าความเที่ยง เท่ากับ .89 แบบวัดลักษณะมุ่งอนาคตและควบคุมตน มีค่าความเที่ยง เท่ากับ .79 ชุดกิจกรรมแนะแนว เพื่อพัฒนาพฤติกรรมยุติธรรม จำนวน 10 กิจกรรม และกิจกรรมแนะแนวอื่น ๆ จำนวน 10 กิจกรรม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที และ การวิเคราะห์ความแปรปรวน 2 ทาง ผลการวิจัยพบว่า (1) นักเรียนกลุ่มทดลองที่ได้ใช้ชุดกิจกรรมแนะแนวเพื่อพัฒนา พฤติกรรมยุติธรรมมีพฤติกรรมยุติธรรมสูงกว่านักเรียนกลุ่มควบคุมที่ได้ใช้กิจกรรมแนะแนวอื่น ๆ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 (2) นักเรียนกลุ่มทดลองที่มีลักษณะมุ่งอนาคตและควบคุมตน ต่างกัน หลังการใช้ชุดกิจกรรมแนะแนวเพื่อพัฒนาพฤติกรรมยุติธรรม มีพฤติกรรมยุติธรรมไม่ แตกต่างกัน และ (3) นักเรียนกลุ่มทดลองที่มีเพศ ผลการเรียนเฉลี่ย และรายได้ของครอบครัวต่างกัน หลังการใช้ชุดกิจกรรมแนะแนวเพื่อพัฒนาพฤติกรรมยุติธรรม มีพฤติกรรมยุติธรรมไม่แตกต่างกันth_TH
dc.formatapplication/pdfen_US
dc.language.isothth_TH
dc.publisherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.relation.urihttps://www.doi.org/10.14457/STOU.the.2010.37-
dc.rightsมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rightsAttribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0)en_US
dc.rights.urihttps://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0/en_US
dc.sourceBorn digitalen_US
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาการแนะแนว --วิทยานิพนธ์th_TH
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ --วิทยานิพนธ์th_TH
dc.subjectการแนะแนว--กิจกรรมการเรียนการสอนth_TH
dc.subjectการแนะแนวการศึกษา--ไทย--ตรังth_TH
dc.subjectนักเรียนมัธยมศึกษา--ไทย--ตรังth_TH
dc.titleผลการใช้ชุดกิจกรรมแนะแนวเพื่อพัฒนาพฤติกรรมยุติธรรมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนตรังคริสเตียนศึกษา จังหวัดตรังth_TH
dc.title.alternativeThe effects of using a guidence activities package to develop fair behaviors of Mathayom Suksa II students of Trang Christian Suksa school in Trang provinceth_TH
dc.typeThesisth_TH
dc.identifier.DOI10.14457/STOU.the.2010.37-
dc.degree.nameศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (การแนะแนว)th_TH
dc.degree.levelปริญญาโทth_TH
dc.degree.disciplineสาขาวิชาศึกษาศาสตร์th_TH
dc.degree.grantorมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.description.abstractalternativeThe purposes of this research were (1) to compare fair behaviors of the experimental group students who used a guidance activities package to develop fair behaviors with counterpart behaviors of the control group students who used other guidance activities; (2) to compare fair behaviors of the experimental group students with different levels of future-oriented and self-control characteristics; and (3) to compare fair behaviors of the experimental group students with different bio-social backgrounds. The research sample consisted of 60 Mathayom Suksa II students in two intact classrooms of Trang Christian Suksa School, Trang province in the 2010 academic year, obtained by cluster sampling. Then they were randomly assigned into two groups each of which consisted of 30 students. After that, one group was randomly assigned as the experimental group; the other, the control group. The employed research instruments comprised a questionnaire on bio-social background; a scale to assess fair behaviors with reliability coefficient of .89; a scale to assess the future-oriented and self control characteristics with reliability coefficient of .79; a guidance activities package to develop fair behaviors comprising 10 activities; and 10 other guidance activities. Statistics employed for data analysis were the percentage, mean, standard deviation, t-test, and two-way analysis of variance. Research findings revealed that (1) the experimental group students using the guidance activities package to develop fair behaviors exhibited fair behaviors at the significantly higher level than the counterpart behaviors of the control group students using other guidance activities at the .01 level; (2) the experimental group students with different levels of future-oriented and self control characteristics, after using the guidance activities package to develop fair behaviors, did not significantly differ in their exhibited fair behaviors; and (3) the experimental group students with different genders, grade point averages, and monthly incomes of their family, after using the guidance activities package to develop fair behaviors, did not differ significantly in their exhibited fair behaviorsen_US
Appears in Collections:Edu-Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Fulltext.pdfเอกสารฉบับเต็ม4.9 MBAdobe PDFView/Open
Show simple item record


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons