Please use this identifier to cite or link to this item:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/11012
Title: | ประสิทธิภาพการดำเนินงานของสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนเขตภาคเหนือตอนบนโดยเทคนิคการวิเคราะห์เส้นห่อหุ้ม |
Other Titles: | Operation efficiency of the Juvenile Observation and Protection in the upper northern region using Data Envelopment Analysis |
Authors: | วสุ สุวรรณวิหค วิไลลักษณ์ อินพูนใจ, 2529- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ |
Keywords: | สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน--ไทย--ภาคเหนือ การบริหารองค์การ การศึกษาอิสระ--เศรษฐศาสตร์ |
Issue Date: | 2563 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
Abstract: | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) สภาพการดำเนินงานทั่วไปของสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนเขตภาคเหนือตอนบน 8 จังหวัด และ (2) ประสิทธิภาพการดำเนินงานสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนเขตภาคเหนือตอนบน 8 จังหวัดของประเทศไทยการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ ซึ่งเป็นข้อมูลติภูมิของสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนเขตภาคเหนือตอนบนจำนวน 8 จังหวัด ในช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 - 2562 เครื่องมือที่ใช้ศึกษา คือ สถิติเชิงพรรณาและแบบจำลองเทคนิคการวิเคราะห์เส้นห่อหุ้ม ภายใต้ตัวแบบพื้นฐาน BCC โดยมีปัจจัยนำเข้า ได้แก่ งบบุคลากร งบดำเนินงาน งบลงทุน จำนวนบุคลากรในหน่วยงานจำนวนเด็กและเยาวชนที่ควบคุมตัว และปัจจัยผลผลิต ได้แก่ คะแนนตัวชี้วัดจำนวนมูลค่าที่เครือข่ายนำมาสนับสนุนภารกิจของหน่วยงาน คะแนนตัวชี้วัดอัตราการหลบหนีสำเร็จจากที่ควบคุมและคะแนนตัวชี้วัดร้อยละของเด็กและเยาวชนที่สามารถกลับไปดำเนินชีวิตในสังคมได้ปกติสุข ผลการวิจัยพบว่า (1) สภาพการดำเนินงานทั่วไปของสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนเขตภาคเหนือตอนบน 8 จังหวัด ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 - 2562 การใช้งบประมาณมีอัตราการเพิ่มขึ้น โดยงบบุคลากรเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 13 งบดำเนินงานเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 2 และงบลงทุนเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 7 ในส่วนของจำนวนเด็กและเยาวชนที่ควบคุมตัวของแต่ละจังหวัดมีอัตราการเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 21 และจำนวนบุคลากรมีจำนวนค่าเฉลี่ยเท่ากันทุกปี ส่วนผลดำเนินงานด้านตัวชี้วัดที่แต่ละจังหวัดทำได้ ตามตัวชี้วัดที่ทำการศึกษาจำนวน 3 ตัวชี้วัดมีอัตราการลดลงเฉลี่ยในช่วงระยะแรกคือปีงบประมาณ 2560-2561 ส่วนในปีงบประมาณ 2562 แต่ละจังหวัดสามารถปฏิบัติได้ตามค่าเป้าหมายที่แต่ตัวชี้วัดกำหนด และ (2) ประสิทธิภาพการดำเนินงานของหน่วยงาน 8 จังหวัดที่ศึกษามีหน่วยงานที่ไม่มีประสิทธิภาพจำนวน 3 จังหวัด จากผลประสิทธิภาพด้านขนาดที่หน่วยงานอยู่ในรูปแบบของผลได้ต่อขนาดลดลง การปรับปรุงประสิทธิภาพควรต้องเป็นวิธีการปรับนโยบายให้เหมาะสมในแต่ละจังหวัด ทั้งในส่วนการจัดสรรงบประมาณ อัตรากำลังบุคลากร และการจัดกลุ่มคัดแยกการควบคุมตัวเด็กและเยาวชนในแต่ละจังหวัด |
URI: | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/11012 |
Appears in Collections: | Econ-Independent study |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
168325.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 8.86 MB | Adobe PDF | View/Open |
This item is licensed under a Creative Commons License