Please use this identifier to cite or link to this item:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/11336Full metadata record
| DC Field | Value | Language |
|---|---|---|
| dc.contributor.advisor | เบญจมาศ อยู่ประเสริฐ, อาจารย์ที่ปรึกษา | th_TH |
| dc.contributor.advisor | บำเพ็ญ เขียวหวาน, อาจารย์ที่ปรึกษา | th_TH |
| dc.contributor.author | ภิชาติ เพชรนาม, 2529- | - |
| dc.contributor.other | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา | th_TH |
| dc.date.accessioned | 2024-01-31T02:41:41Z | - |
| dc.date.available | 2024-01-31T02:41:41Z | - |
| dc.date.issued | 2564 | - |
| dc.identifier.uri | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/11336 | - |
| dc.description | วิทยานิพนธ์ (กษ.ม.(ส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2564 | th_TH |
| dc.description.abstract | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) เพื่อศึกษาสภาพพื้นฐานทางสังคม และเศรษฐกิจของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวอินทรีย์ 2) ความรู้เกี่ยวกับเครือข่ายผู้ปลูกข้าวอินทรีย์ของเกษตรกร 3) การได้รับการส่งเสริมเครือข่ายผู้ปลูกข้าวอินทรีย์ของเกษตรกร 4) ความต้องการการส่งเสริมเครือข่ายผู้ปลูกข้าวอินทรีย์ของเกษตรกรและ 5) ปัญหาและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการส่งเสริมเครือข่ายผู้ปลูกข้าวอินทรีย์ของเกษตรกร ผลการวิจัย พบว่า 1) เกษตรกรผู้ปลูข้าวกอินทรีย์ส่วนมากจบการศึกษาระดับประถมศึกษา มีพื้นที่ปลูกข้าวทั้งหมด เฉลี่ย 15.67 ไร่ มีพื้นที่ปลูกข้าวเพื่อผลิตข้าวอินทรีย์ เฉลี่ย 10.95ไร่ มีปริมาณผลผลิตข้าวอินทรีย์เฉลี่ย 401.12 กิโลกรัมต่อไร่ 2)เกษตรกรมีความรู้เกี่ยวกับเครือข่าย ในภาพรวมระดับมากที่สุด 3)ได้รับความรู้จากวิธีการส่งเสริมเครือข่ายแบบต่างๆ ในภาพรวมระดับมากโดยรับทราบข้อมูลข่าวสารจากวิธีการส่งเสริมในระดับมากที่สุดใน 4 วิธี ได้แก่ การฝึกอบรม เจ้าหน้าที่เข้าไปเยี่ยมเยียนเกษตรกรที่ไร่นาหรือบ้าน การประชุม และเกษตรกรเข้าไปติดต่อเจ้าหน้าที่ที่สำนักงาน 4) เกษตรกรมีความต้องการการส่งเสริมเกษตรเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกข้าวอินทรีย์ มากที่สุด ใน 3 อันดับแรก ได้แก่ สร้างและพัฒนาผู้นำ การจัดเวทีให้เครือข่ายได้พบกันและแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันอย่างสม่ำเสมอ และการสร้างเสริมผู้นำรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง 5) เกษตรกรมีปัญหาการส่งเสริมเครือข่าย คือ คณะกรรมการกลุ่มและสมาชิกขาดการค้นหาความต้องและจุดร่วม ขาดการรักษาสัมพันธภาพที่ดีระหว่างสมาชิก และขาดการเสริมสร้างและพัฒนาผู้นำรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยมีข้อเสนอแนะ ดังนี้ ควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการจัดอบรม เพื่อพัฒนาผู้นำกลุ่ม/ผู้นำรุ่นใหม่ ควรจัดให้มีการอบรม สัมมนาศึกษาดูงานในพื้นที่ที่กลุ่มเครือข่ายเกษตรกรประสบความสำเร็จ เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจ เพิ่มเติมความรู้ และนำมาต่อยอดในพื้นที่ของตนเองและเจ้าหน้าที่ควรจัดกระบวนการเรียนรู้ให้คำแนะนำแก่เกษตรกรให้รู้จักการบริหารจัดการ ดำเนินงานกลุ่มที่เข้มแข็งและมีศักยภาพ | th_TH |
| dc.format | application/pdf | en_US |
| dc.language.iso | th | en_US |
| dc.publisher | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช | th_TH |
| dc.rights | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช | th_TH |
| dc.rights | Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) | en_US |
| dc.rights.uri | https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0/ | en_US |
| dc.source | Born digital | en_US |
| dc.subject | การส่งเสริมการเกษตร | th_TH |
| dc.subject | ข้าวอินทรีย์ | th_TH |
| dc.subject | ข้าวอินทรีย์--การปลูก--การมีส่วนร่วมของประชาชน | th_TH |
| dc.title | การส่งเสริมเครือข่ายผู้ปลูกข้าวอินทรีย์ของเกษตรกร ตำบลกล้วยกว้าง อำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ | th_TH |
| dc.title.alternative | Extension of the organic rice network of farmers in Kluay Kwang sub-district, Huai Thap Than District, Si Sa Ket Province | en_US |
| dc.type | Thesis | en_US |
| dc.degree.name | เกษตรศาสตรมหาบัณฑิต | th_TH |
| dc.degree.level | ปริญญาโท | th_TH |
| dc.degree.discipline | สาขาวิชาเกษตรศาสตร์และสหกรณ์ | th_TH |
| dc.degree.grantor | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช | th_TH |
| dc.description.abstractalternative | The objectives of this research were to study 1) basic social and economic conditions of organic rice production farmers 2) knowledge regarding network of organic rice producers of farmers 3) the receiving of extension of organic rice producer network of farmers 4) extension needs of the network of organic rice producers of farmers and 5) problems and suggestions about the extension of organic rice producer network of farmers. The population in this research was 112 farmers who participated in organic rice production extension project in 2017 in the area of Kluay kwang sub-district, Huai Thap Thun district, Si Sa Ket province. Data were collected from the entire population through conducting interview. Data were then analyzed by using descriptive statistics such as frequency, percentage, mean, minimum value, maximum value, standard deviation, and ranking. The results of the research found out that 1) organic rice production farmers, mostly, completed primary school education with the average rice production area of 15.67 Rai, had the average rice production area for organic rice production of 10.95 Rai, and had the average organic rice productivity of 401.12 kilogram/Rai. 2)Farmers had knowledge about the network, overall, at the highest level. 3) They received the knowledge from various network extension methods, overall, at the high level. They received the information from extension methods at the highest level in 4 methods: training, visitation from officers at the farm or home, meeting, and farmer contact with officials. 4) Farmers wanted to receive the extension about organic rice production farmer network at the highest level in 3aspects: leadership creation and development, network forum organization for regular knowledge exchange and meeting, and the continuous encouragement of the new generation leaders. 5) Farmers faced with the problem about network extension in regards to the aspect that the group committees and members lacked of need seeking and mutual point, lacked of maintaining good relationship among members, and lacked of continuous creation and development of new generation leaders. The suggestions included that there should be related agencies to organize training on the development of group leader/new generation leader. There should also be the training, seminar, field trip to successful farmer network group areas in order to create the motivation, increase knowledge, and adopt the knowledge into their own areas. Furthermore, the officers should provide knowledge process to give out suggestions to farmers so that they know about management, strong group operation, and potential | en_US |
| Appears in Collections: | Agri-Theses | |
Files in This Item:
| File | Description | Size | Format | |
|---|---|---|---|---|
| FULLTEXT.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 16.53 MB | Adobe PDF | View/Open |
This item is licensed under a Creative Commons License
