Please use this identifier to cite or link to this item:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/11653
Title: | สินเชื่อภาคครัวเรือนในจังหวัดบุรีรัมย์ |
Other Titles: | Family credit in Burirum Province |
Authors: | เอกพล หนุ่ยศรี ประกิจ ยี่หวาวงศ์, 2519- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา รัชญ์ ปราบปรปักษ์ |
Keywords: | สินเชื่อเกษตร--ไทย--บุรีรัมย์ หนี้--ไทย--บุรีรัมย์ |
Issue Date: | 2550 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
Abstract: | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาลักษณะทั่วไปของครัวเรือนตัวอย่างที่มีหนี้สินในจังหวัดบุรีรัมย์ 2) เพื่อศึกษาถึงปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อปริมาณสินเชื่อภาคครัวเรือน และ3) เพื่อศึกษาถึงปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความสามารถในการชำระหนี้ภาคครัวเรือน ผลการศึกษาพบว่า 1) ครัวเรือนที่ศึกษามีจำนวน 571 ครัวเรือน มีหนี้สิน หรือคิดเป็นร้อยละ 81.39 สำหรับครัวเรือนที่มีหนี้นั้นพบว่า มีหนี้เฉลี่ย 56,227.44 บาทต่อครัวเรือน แต่เมื่อพิจารณาหนี้เฉลี่ยของครัวเรือนตัวอย่างทั้งหมดพบว่าเท่ากับ 45,734.85 บาทต่อครัวเรือน เมื่อพิจารณาในแง่ของระดับการศึกษาพบว่า ครัวเรือนที่หัวหน้าครัวเรือนจบการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี มีหนี้สินมากที่สุดคือเฉลี่ย 241,666.67 บาทต่อครัวเรือน และครัวเรือนที่มีสมาชิก 8 คนเป็นครัวเรือนที่มีหนี้เฉลี่ย สูงสุดคือ 118,571.00 บาทต่อครัวเรือน ในด้านอาชีพครัวเรือนที่รับเงินเดือนประจำ มีหนี้สินมากที่สุดโดยมีหนี้สินเท่ากับ 77,191.84 บาทต่อครัวเรือน และครัวเรือนกลุ่มนี้ยังเป็นครัวเรือนที่มีความสามารถชำระหนี้สูงสุด ครัวเรือนที่มีอาชีพรับจ้างทั่วไปเป็นครัวเรือนที่มีหนี้ต่ำสุดคือมีหนี้เฉลี่ยเท่ากับ 21,171.42 บาทต่อครัวเรือนและครัวเรือนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มซึ่งมีความสามารถชำระหนี้ต่ำสุดนอกจากนี้การศึกษายังพบอีกว่าเมื่อครัวเรือนมีจำนวนอาชีพเพิ่มขึ้น จะมีหนี้ลดลง และมีระดับความสามารถในการชำระหนี้เพิ่มมากขึ้น อนึ่งครัวเรือนทั้งหมดมีการกู้จากแหล่งเงินกู้เฉลี่ย1.4แหล่งต่อครัวเรือนและการกู้เงินส่วนใหญ่จะกู้จากญาติพี่น้องคิดเป็นร้อยละ 34.04 ของครัวเรือนตัวอย่างทั้งหมด 2) ปัจจัยที่มีผลต่อหนี้ภาคครัวเรือน เมื่อกำหนดระดับนัยสำคัญทางสถิติเท่ากับ 0.05 คือ รายได้ ระดับการศึกษาหัวหน้าครัวเรือน จำนวนแหล่งเงินกู้ และเพศของหัวหน้าครัวเรือน ซึ่งตัวแปรต่างๆเหล่านี้สามารถอธิบายความแปรปรวนของปริมาณหนี้ได้ร้อยละ 25.7 3) ปัจจัยที่มีผลต่อความสามารถในการชำระหนี้ภาคครัวเรือน เมื่อกำหนดระดับนัยสำคัญทางสถิติ เท่ากับ 0.05 ประกอบด้วยปัจจัยที่มีความสำคัญสูงสุดตามลำดับดังนี้ รายได้ รายจ่าย และเงินออม ซึ่งปัจจัยทั้งหมดนี้สามารถอธิบายการเปลี่ยนแปลงความสามารถในการชำระหนี้ภาคครัวเรือนในจังหวัดบุรีรัมย์ได้ร้อยละ 66.5 |
Description: | วิทยานิพนธ์ (ศ.ม. (เศรษฐศาสตร์))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2550 |
URI: | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/11653 |
Appears in Collections: | Econ-Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
101791.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 5.27 MB | Adobe PDF | View/Open |
This item is licensed under a Creative Commons License