กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/11787
ชื่อเรื่อง: มาตรการทางอาญาในการคุ้มครองผู้บริโภคกรณีในการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพเกินจริง
ชื่อเรื่องอื่นๆ: Criminal measures in consumer protection : a case study of an over-exaggerated advertisement of health products
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: ธวัชชัย สุวรรณพานิช, อาจารย์ที่ปรึกษา
ณฐพรรณ เพ็ชร์เรือทอง, 2512-
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิติศาสตร์
คำสำคัญ: การคุ้มครองผู้บริโภค--กฎหมายและระเบียบข้อบังคับ--ไทย
ผลิตภัณฑ์สุขภาพ--โฆษณา
การศึกษาอิสระ--กฎหมายอาญาและกระบวนการยุติธรรม
วันที่เผยแพร่: 2560
สำนักพิมพ์: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
บทคัดย่อ: การศึกษาค้นคว้าอิสระเรื่องนี้ เพื่อศึกษาแนวคิด ทฤษฎีในการคุ้มครองผู้บริโภค หลักทั่วไป ของกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อศึกษาปัญหาอุปสรรคในการควบคุมกำกับการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพ และข้อบกพร่องของกฎหมายและมาตรการในการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อศึกษามาตรการในการควบคุมกำกับ การโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพของภาครัฐและเอกชน เพื่อค้นคว้าหาแนวทางที่เหมาะสมมาปรับปรุง และเพิ่มเติมกฎหมายเพื่อให้เกิดมาตรการทางกฎหมายในการควบคุมกำกับการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพ และเสนอแนะให้มีการปรับปรุงแก้ไขเพื่อประโยชน์ของผู้บริโภค ผลการวิจัยพบว่า ปัจจุบันคนส่วนใหญ่หันมาให้ความสนใจในเรื่องของการดูแลสุขภาพ ดังนั้น ผู้ประกอบธุรกิจจึงต้องมีการพัฒนาสินค้าหรือบริการของตนเพื่อให้สู้กับคู่แข่งได้อันส่งผลให้การโฆษณา เข้ามามีบทบาทหลักในการดำเนินธุรกิจเพื่อนำเสนอข้อมูลไปยังผู้บริโภค แต่ผู้ประกอบธุรกิจส่วนใหญ่ ไม่คำนึงว่าตนต้องอยู่ภายใต้บังคับของกฎเกณฑ์ของกฎหมาย จึงมีการโฆษณาสินค้าหรือบริการโดยหลอกลวง หรือโดยมีข้อความอันเป็นเท็จ และ ประชาชนผู้บริโภคย่อมได้รับความเสียหาย รวมถึงตัวบทกฎหมายซึ่งมี อัตราโทษน้อยเกินไป ทำให้ผู้ประกอบทำการโฆษณาโดยไม่เกรงกลัวโดยจากที่ได้ศึกษาระบบและมาตรการ ในการควบคุมการโฆษณาในต่างประเทศนั้นจะมีลงโทษอันรุนแรง เช่นการออกคำสั่งห้ามใช้ข้อความในการ โฆษณา รวมทั้งมีการชดเชยค่าเสียหายให้แก่ผู้บริโภค ในประเทศไทยจึงควรมีการกำหนดบทลงโทษให้มีควร มีความเข้มงวดมากขึ้น โดยเพิ่มอัตราโทษให้หนักขึ้น หากผู้ประกอบการที่กระทำความผิดซ้ำซ้อน ต้องกำหนดให้ มีอัตราโทษจำคุก และปรับในอัตราอย่างสูง ตลอดระยะเวลาที่ยังฝ่าฝืน ในส่วนภาครัฐควรมีการประชาสัมพันธ์ เพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วมของผู้บริโภค ให้เข้ามามีบทบาทในการควบคุมการโฆษณา รวมทั้งควรมีการจัดตั้ง องค์กรคุ้มครองผู้บริโภคที่เป็นหน่วยงานอิสระจากหน่วยงานรัฐ แต่ให้รัฐสนับสนุนงบประมาณในการ ดำเนินงานแต่ละปี เพื่อที่จะได้มีส่วนร่วมในการบังคับใช้กฎหมาย
URI: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/11787
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:Law-Independent study

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
156061.pdfเอกสารฉบับเต็ม30.1 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการนี้ได้รับอนุญาตภายใต้ Creative Commons License Creative Commons