Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/12331
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorเยาวภา ปิ่นทุพันธ์, อาจารย์ที่ปรึกษาth_TH
dc.contributor.authorนันสกี มูลตะกอนth_TH
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพth_TH
dc.date.accessioned2024-06-26T03:51:33Z-
dc.date.available2024-06-26T03:51:33Z-
dc.date.issued2551-
dc.identifier.urihttps://ir.stou.ac.th/handle/123456789/12331en_US
dc.description.abstractการศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) จำแนกปัจจัยเกี่ยวกับคุณภาพบริการโรงพยาบาล (2) ตรวจสอบระเบียบวิธีวิจัย และ (3) ประเมินคุณภาพของงานวิจัยที่ทำการสังเคราะห์ และ (4) สรุปผลงานวิจัยที่มีคุณภาพในการนำไปใช้ในส่วนที่เกี่ยวข้องการศึกษาใช้รูปแบบการสังเคราะห์เชิงคุณภาพโคยวิธีการวิเคราะห์เนื้อหาในการจำแนกประเด็นงานวิจัยที่สำคัญการสืบกับงานวิจัยจากฐานข้อมูลทางอินเทอร์เนตที่มีความเชื่อมโยงไปยังห้องสมุดของมหาวิทยาลัยทั่วทุกภาคของประเทศได้เอกสารงานวิจัย วิทยานิพนธ์ และงานค้นคว้าอิสระ ที่ศึกษาปัจจัยเกี่ยวกับภาพบริการโรงพยาบาลในประเทศ และตีพิมพ์ระหว่างปี พ.ศ. 2544-2549 จำนวน 10 เรื่อง เครื่องมือเป็นแบบบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการวิจัย ทำการวิเคราะห์ ข้อมูลเชิงพรรณนาโดยการแจกแจงความถี่ และร้อยละ และทำการสังเคราะห์ข้อมูลชิงคุณภาพโดยการประเมินเชิงวิพากษ์ และให้คะแนนตามความเหมาะสมของเนื้อหาผลการสังเคราะห์งานวิจัยพบว่า (1) ปัจจัยเกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพบริการโรงพยาบาลที่ทำการศึกษาไว้มี 6 ด้านหลัก คือ ด้านทรัพยากรและการจัดทรัพยากร และด้านกระบวนคุณภาพ มีระบุในงานวิจัยทุกเรื่อง ด้านดูแลรักษาผู้ป่วย มีระบุในงานวิจัย 9 เรื่อง ด้านการรักษามาตรฐานและจริยธรรมวิชาชีพ มีระบุในงานวิจัย 7 เรื่อง ด้านสิทธิผู้ป่วยและจริยธรรมองค์กร มีระบุในงานวิจัย 6 เรื่อง และด้านความมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพ มีระบุในงานวิจัย 5 เรื่อง (2) งานวิจัยส่วนมากศึกษาในกลุ่มผู้ให้บริการหรือผู้รับบริการ ใช้วิธีคำนวณขนาดตัวอย่างและวิธีสุ่มตัวอย่างอย่างเป็นระบบ ใช้แบบสอบถามแบบให้ตอบด้วยตนเองซึ่งผ่านการตรวจสอบความตรงโดยผู้เชี่ยวชาญและการทดลองใช้หาความเที่ยง เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล มีอัตราการตอบกลับมากกว่าร้อยละ 80และใช้สถิติสำหรับหาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรที่ศึกษา (3) งานวิจัยทุกเรื่องมีคะแนนผลการประเมินเชิงวิพากษ์คุณภาพงานวิจัย มากกว่าร้อยละ 80 ขึ้นไป ซึ่งพิจารณาว่ามีคุณภาพสูงสำหรับการนำข้อค้นพบงานวิจัยไปใช้อ้างอิง และ (4) งานวิจัยส่วนมากมีผลงานวิจัยสอดคล้องกันเกี่ยวกับ (4.1) ความสัมพันธ์ระหว่างความมุ่งมั่นของผู้นำองค์กร และลักษณะของผู้นำ กับผลการดำเนินงานพัฒนาคุณภาพบริการ และระหว่างความสามารถของวหน้าระดับต่าง ๆ กับการทำกิจกรรมการพัฒนาคุณภาพบริการ (4.2) ความสำคัญของความสามารถด้านการดูแลรักษาของแพทย์ พยาบาล อัธยาศัยที่ดี และการตอบสนองผู้รับบริการอย่างรวดเร็ว และ (4.3) รูปแบบกิจกรรมการพัฒนาคุณภาพบริการ ซึ่งใช้การฝึกอบรม การทดลองปฏิบัติ การพัฒนาตนเองตามคู่มือ การทำงานเป็นทีม การยึดหลักความพึงพอใจของผู้รับบริการth_TH
dc.formatapplication/pdfen_US
dc.language.isothen_US
dc.publisherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rightsมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rightsAttribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0)th_TH
dc.rights.urihttps://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0/en_US
dc.sourceBorn digitalen_US
dc.subjectโรงพยาบาล--การควบคุมคุณภาพth_TH
dc.subjectการศึกษาอิสระ--สาธารณสุขศาสตร์th_TH
dc.titleการสังเคราะห์งานวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพบริการโรงพยาบาลth_TH
dc.title.alternativeA Narrative synthesis on the quality improvement of hospital serviceen_US
dc.typethen_US
dc.degree.nameสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (บริหารสาธารณสุข)th_TH
dc.degree.levelปริญญาโทth_TH
dc.degree.disciplineสาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพth_TH
dc.degree.grantorมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
Appears in Collections:Health-Independent study

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Fulltext_115734.pdfเอกสารฉบับเต็ม10.13 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons