Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/12521
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorเปรมฤทัย น้อยหมื่นไวยth_TH
dc.contributor.authorเบญจวรรณ นครพัฒน์th_TH
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาพยาบาลศาสตร์th_TH
dc.date.accessioned2024-07-13T08:13:32Z-
dc.date.available2024-07-13T08:13:32Z-
dc.date.issued2555-
dc.identifier.urihttps://ir.stou.ac.th/handle/123456789/12521en_US
dc.description.abstractการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนรวมในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาแนวปฏิบัติทางคลินิกในการป้องกันการเกิดปอดอักเสบจากการใช้เครื่องช่วยหายใจของหอผู้ป่วยศัลยกรรมอุบัติเหตุและศัลยกรรมประสาท โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ และ 2) เพื่อประเมินประสิทธิผลของแนวปฏิบัติทางคลินิกในการ ป้องกันการเกิดปอดอักเสบจากการใช้เครื่องช่วยหายใจที่พัฒนาขึ้น กลุ่มตัวอย่างมี 2 กลุ่ม คือ บุคลากรทางการพยาบาลหอผู้ป่วยศัลยกรรมอุบัติเหตุและศัลยกรรมประสาท จำนวน 20 คนที่ปฏิบัติงานระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์-30 มิถุนายน 2555 และผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษา ในหอผู้ป่วยศัลยกรรมอุบัติเหตุและศัลยกรรมประสาทที่ใช้เครื่องช่วยหายใจระหว่างวันที่ 1 เมษายน-30 มิถุนายน 2555 จำนวน 79 ราย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วยแนวปฏิบัติทางคลินิกในการป้องกันการเกิดปอดอักเสบจากการใช้เครื่องช่วยหายใจ แบบสังเกตการปฏิบัติแบบสอบถามความพึงพอใจของบุคลากรทางการพยาบาล และแบบฟอร์มการเฝ้าระวังการเกิดปอดอักเสบจากการใช้เครื่องช่วยหายใจ ดำเนินการวิจัยโดยใช้กระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม 4 ระยะ ได้แก่ ระยะเตรียมการระยะดำเนินการพัฒนา ระยะทดลองใช้แนวปฏิบัติทางคลินิกและระยะประเมินผล วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนาและการทดสอบ สัดส่วน ผลการวิจัยพบว่า แนวปฏิบัติทางคลินิกในการป้องกันการเกิดปอดอักเสบจากการใช้เครื่องช่วย หายใจที่พัฒนาขึ้นประกอบด้วย 7 กิจกรรม ได้แก่ ทำความสะอาดมือ ดูแลความสะอาดช่องปากและฟัน จัดท่านอนและพลิกตะแคงตัว ให้อาหารทางสายให้อาหาร ดูดเสมหะ หย่าเครื่องช่วยหายใจและการดูแลท่อช่วยหายใจและส่วนประกอบของเครื่องช่วยหายใจ บุคลากรทางการพยาบาลมีการปฏิบัติในการป้องกันการเกิดปอดอักเสบจากการใช้เครื่องช่วยหายใจถูกต้องเพิ่มขึ้นอย้างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ยกเว้นการหย่าเครื่องช่วย หายใจที่ไม่แตกตางกันโดยเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 64.07 เป็นร้อยละ 90.35 อุบัติการณ์การเกิดปอดอักเสบจากการใช้เครื่องช่วยหายใจลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยลดลงจาก 10.77 เป็น 0.00 ครั้งต่อ 1,000 วัน ที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ บุคลากรทางการพยาบาลพึงพอใจต่อแนวปฏิบัติทางคลินิกที่พัฒนาขึ้นในระดับสูงth_TH
dc.formatapplication/pdfen_US
dc.language.isothth_TH
dc.publisherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rightsAttribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0)en_US
dc.rightsมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rights.urihttps://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0/en_US
dc.sourceBorn digitalen_US
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาพยาบาลศาสตร์--การศึกษาเฉพาะกรณีth_TH
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาการบริหารการพยาบาล--การศึกษาเฉพาะกรณีth_TH
dc.subjectเครื่องช่วยหายใจth_TH
dc.subjectปอดอักเสบ--การป้องกันและควบคุมth_TH
dc.titleการพัฒนาแนวปฏิบัติทางคลินิกในการป้องกันการเกิดปอดอักเสบจากการใช้เครื่องช่วยหายใจ หอผู้ป่วยศัลยกรรมอุบัติเหตุและศัลยกรรมประสาท โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์th_TH
dc.title.alternativeDevelopment of clinical practice guidelines for ventilator-associated pneumonia prevention at Trauma and Neurological Ward in Chumphon Khet Udomsakdi Hospitalth_TH
dc.typeThesisen_US
dc.degree.nameปริญญา พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต (แขนงวิชาการบริหารการพยาบาล)th_TH
dc.degree.levelปริญญาโทth_TH
dc.degree.disciplineสาขาวิชาพยาบาลศาสตร์th_TH
dc.degree.grantorมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.description.abstractalternativeThe purposes of this participatory action research were: 1) to develop a clinical practice guideline (CPG) for preventing pneumonia from ventilators at the trauma and neurological ward in Chumphon Khet Udomsakdi Hospital, and 2) to study the effectiveness of applying the CPG for preventing pneumonia from ventilators at at this unit. Samples included two groups. The first group was 20 nursing staffs who worked at trauma and neurological ward during February to June 2012, and the second group was 79 patients who were admitted in this unit from April to June 2012 and who needed pressure control ventilators. Research tools consist of CPG for peventing pneumonia from ventilator at the trauma and neurological ward,observational recording form, satisfaction questionnaires and surveillance form. The process of this study consistof 4 phases: preparation phase, CPG developing phase, CPG tryout and evaluation. Data were analyzed by descriptive statistics and proportional test. The results were as follows. (1) The CPG for preventing pneumonia prevention comprised 7 activites: hand washing, mouth and teeth, cleaning, change and arrange in a proper position, feeding via a gastric tube, suction, ventilator weaning, care of endotracheal tube and mechanical ventilators. (2) The nursing staff right practice their nursing for this group of patients more significantly and correctly (90.35%) than before (64.07%) (p < 0.05) except weaning process. (3) The incidence rate of ventilator – associated pneumonia which was caused by ventilators after conducting CPG was significant by lower (0.00) than before (10.77) (p < 0.05). during 1,000 days of using ventilators. Finally (4) nurses rated their satisfaction on this CPG at the high level.en_US
Appears in Collections:Nurse-Independent study

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Fulltext_130678.pdfเอกสารฉบับเต็ม21.81 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons