Please use this identifier to cite or link to this item:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/12559Full metadata record
| DC Field | Value | Language |
|---|---|---|
| dc.contributor.advisor | จักรกฤษณ์ ศิวะเดชาเทพ | th_TH |
| dc.contributor.author | อนนท์ ป้อมประสิทธิ์, 2504- | th_TH |
| dc.contributor.other | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ | th_TH |
| dc.date.accessioned | 2024-07-15T07:59:00Z | - |
| dc.date.available | 2024-07-15T07:59:00Z | - |
| dc.date.issued | 2551 | - |
| dc.identifier.uri | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/12559 | en_US |
| dc.description.abstract | วัตถุประสงค์การวิจัยครั้งนี้เพื่อ (1) ศึกษาสมบัติพื้นฐานของตะกรันทองแดงจากกระบวน การพ่นทำความสะอาดผิวโลหะ (2) ศึกษาอัตราส่วนที่เหมาะสมในการใช้ตะกรันทอง แดง จากกระบวนการพ่นทำความสะอาดผิวโลหะมาเป็นส่วนผสมในการทำคอนกรีตบล็อกประสานปูพื้น (3) เปรียบเทียบค่าความสามารถรับกำลังอัดของคอนกรีตบล็อกประสานปูพื้นกับค่ามาตรฐาน (4) เปรียบเทียบต้นทุนการผลิตระหว่างคอนกรีตบล็อกประสานปูพื้นที่ทำจากตะกรันทองแดงกับคอนกรีตบล็อกประสานปูพื้นทั่วไปการวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลองโดยการวิเคราะห์หาองค์ประกอบทางเคมีของตะกรันทองแดงโดย XRF และศึกษาการชะละลายโลหะหนักของตะกรันทองแดงด้วยวิธีที่กำหนดตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่องการกำจัดสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว พ.ศ.2548 จากนั้นนำปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ประเภท 1 มาผสมกับตะกรันทองแดงและน้ำ โดยใช้ อัตราส่วนปูนซีเมนต์ต่อตะกรันทองแดง 20 : 80, 25:75, 30:70 และ 35:65 ตามลำดับ นำมาผสมกับน้ำประปาในสัดส่วนที่เหมาะสมโดยน้ำหนัก และหล่อแบบรูปทรงลูกบาศก์ขนาด 50 x 50 x 50 มิลลิเมตร จำนวนสูตรละ 6 ก้อน รวมทั้งหมด 24 ก้อน ทดสอบความต้านแรงอัดของก้อนมอร์ตาร์ที่อายุ 7 และ 28 วัน ตามมาตรฐาน ASTM C 109 หลังจากนั้นผลิตเป็นบล็อกประสานปูพื้นขนาค 210 x 295 x 60 มิลลิเมตรทั้ง 4 สูตร จำนวนสูตรละ 10 ก้อน รวมทั้งหมค 40 ก้อน และทดสอบความต้านแรงอัดตามมาตรฐาน มอก. 827 ผลการวิจัยพบว่า (1) องค์ประกอบทางเคมี มีสมบัติเป็นวัสดุ ปอซโซลาน class F สมบัติทางกายภาพ มีขนาดของอนุภาคหลายขนาดปนกันอยู่ใกล้เคียงกับทรายทั่วไปมีความถ่วงจำเพาะสูงและน้ำชะละลายของตะกรันทองแดงมีปริมาณโลหะหนักไม่เกินมาตรฐาน (2) คอนกรีตมอร์ตาร์ ที่ผสมตะกรันทองแดงอายุบ่ม 7 และ 28 วัน สูตรที่อัตราส่วนปูนซีเมนต์ต่อตะกรันทองแดง 30:70 และ 35:65 ค่าความต้านแรงอัดสูงกว่ามาตรฐาน ซึ่งกำหนดไม่น้อยกว่า 40 เมกะพาสคัล มีความเหมาะสมในการทำคอนกรีตบล็อกประสานปูพื้น (3) ค่าความต้านแรงอัดของผลิตภัณฑ์คอนกรีตบล็อกประสานปูพื้นที่ผลิตได้ ที่อายุบ่ม 7 วัน ทั้งสี่สูตรมีค่าต่ำกว่ามาตรฐานสำหรับอายุบ่ม 28 วัน สูตรที่อัตราส่วนปูนซีเมนต์ต่อตะกรันทองแดง 35:65 เท่านั้นที่ค่าความต้านแรงอัดสูงกว่ามาตรฐาน (4) เมื่อเปรียบเทียบต้นทุนการผลิตคอนกรีตบล็อกประสานปูพื้นที่ทำจากตะกรันทองแดงพบว่าราคาต่ำกว่าคอนกรีตบล็อกประสานปูพื้นทั่วไป | th_TH |
| dc.format | application/pdf | en_US |
| dc.language.iso | th | en_US |
| dc.publisher | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช | th_TH |
| dc.rights | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช | th_TH |
| dc.rights | Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) | en_us |
| dc.rights.uri | https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0/ | en_US |
| dc.source | Reformatted digital | en_US |
| dc.subject | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาสาธารณสุขศาสตร์--การศึกษาเฉพาะกรณี | th_TH |
| dc.subject | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ--การศึกษาเฉพาะกรณี | th_TH |
| dc.subject | คอนกรีต | th_TH |
| dc.subject | การศึกษาอิสระ--วิทยาศาสตร์สุขภาพ | th_TH |
| dc.title | การใช้ตะกรันทองแดงจากกระบวนการพ่นทำความสะอาดผิวโลหะเป็นวัสดุผสมในการทำคอนกรีตบล็อกประสานปูพื้น | th_TH |
| dc.title.alternative | Utilization of copper slag from metal surface abrasive blast cleaning process as aggregate in interlocking concrete paving blocks making | en_US |
| dc.type | Thesis | en_US |
| dc.degree.name | สาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต | th_TH |
| dc.degree.level | ปริญญาโท | th_TH |
| dc.degree.discipline | สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ | th_TH |
| dc.degree.grantor | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช | th_TH |
| Appears in Collections: | Health-Independent study | |
Files in This Item:
| File | Description | Size | Format | |
|---|---|---|---|---|
| fulltext_127601.pdf | ้เอกสารฉบับเต็ม | 4.67 MB | Adobe PDF | View/Open |
This item is licensed under a Creative Commons License
