การพัฒนารูปแบบกลยุทธ์การตลาดสถานบริการดูแลผู้สูงอายุเอกชน ในประเทศไทย

Abstract

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) วิเคราะห์องค์ประกอบของปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมภายนอก ปัจจัยอิทธิพลภายใน ปัจจัยด้านการตลาดบริการ และผลสัมฤทธิ์สถานบริการดูแลผู้สูงอายุเอกชนในประเทศไทย (2) วิเคราะห์อิทธิพลของปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมภายนอก ปัจจัยอิทธิพลภายใน ปัจจัยการตลาดบริการ ต่อผลสัมฤทธิ์สถานบริการดูแลผู้สูงอายุเอกชนในประเทศไทย และ (3) พัฒนารูปแบบกลยุทธ์การตลาดของธุรกิจสถานบริการดูแลผู้สูงอายุเอกชนในประเทศไทย ผลการวิจัยพบว่า (1) ตัวชี้วัดปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมภายนอก มี 4 ปัจจัย ได้แก่ กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้อง สภาพทางเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม และเทคโนโลยี ปัจจัยอิทธิพลภายในมี 7 ปัจจัย ได้แก่ การรับรู้ การเรียนรู้ ความทรงจำแรงจูงใจ บุคลิกภาพ อารมณ์ และทัศนคติต่อสถานบริการดูแลผู้สูงอายุ ปัจจัยด้านการตลาดบริการ มี 8 ปัจจัย ได้แก่ ด้านผลิตภัณฑ์ ด้านราคา ด้านช่องทางจัดจำหน่าย ด้านการส่งเสริมการตลาด ด้านบุคลากร ด้านกระบวนการ ด้านรูปลักษณ์ทางกายภาพ และด้านประสิทธิภาพและคุณภาพ และผลสัมฤทธิ์สถานบริการดูแลผู้สูงอายุ มี 5 ปัจจัย ได้แก่ ประโยชน์ที่จะได้รับภาพลักษณ์ที่ดี ความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ คุณภาพชีวิต และการพัฒนาตลาด (2) รูปแบบการตลาดสถานบริการดูแลผู้สูงอายุเอกชนในประเทศไทยตามสมมติฐานกับข้อมูลเชิงประจักษ์มีความสอดคล้องกลมกลืนกันในระดับดี โดยปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมภายนอกมีอิทธิพลรวมต่อผลสัมฤทธิ์สถานบริการดูแลผู้สูงอายุเอกชน เท่ากับ 0.34 เป็นอิทธิพลทางตรงเท่ากับ0.22 และมีอิทธิพลทางอ้อมผ่านปัจจัยด้านการตลาดบริการ ขนาด.0.12 ปัจจัยอิทธิพลภายใน มีอิทธิพลรวมต่อผลสัมฤทธิ์สถานบริการดูแลผู้สูงอายุเอกชน เท่ากับ 0.59 เป็นอิทธิพลทางตรงเท่ากับ 0.41และมีอิทธิพลทางอ้อมผ่านปัจจัยด้านการตลาดบริการ ขนาด.0.18 และปัจจัยด้านการตลาดบริการ มีอิทธิพลทางตรงต่อผลสัมฤทธิ์สถานบริการดูแลผู้สูงอายุเอกชน เท่ากับ0.33 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 และ (3) รูปแบบกลยุทธ์การตลาดสถานบริการดูแลผู้สูงอายุเอกชนที่เกิดผลสัมฤทธิ์ ได้แก่ ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมภายนอกที่ต้องพิจารณาสภาพทางเศรษฐกิจเป็นลำดับแรก ซึ่งการเสริมแรงจูงใจของผู้ใช้บริการผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายโดยสถานบริการดูแลผู้สูงอายุจะต้องคำนึงถึงคุณภาพชีวิตของผู้ใช้บริการ และการพัฒนาตลาดของธุรกิจด้วย