Guidelines for Development of Digital Leadership of School Administrators under Chanthaburi Primary Educational Service Area Office 1

Abstract

The purposes of this research were 1) to study the digital leadership level of school administrators; 2) to compare the digital leadership level of school administrators, as classified by school size, and 3) to propose guidelines for developing the digital leadership of school administrators under Chanthaburi Primary Educational Service Area Office 1. The sample consisted of 306 teachers in schools under Chanthaburi Primary Educational Service Area Office 1, obtained by stratified random sampling based on school size. The sample size was determined based on Krejcie and Morgan’s Sample. The research instrument was a rating scale questionnaire on digital leadership of school administrators, with a reliability of .97 and an interview form on guidelines for developing the digital leadership of school administrators. The research data were analyzed using the percentage, mean, standard deviation, one-way ANOVA, and content analysis. The research findings revealed that 1) the overall and each aspect of digital leadership of school administrators were rated at the high level. When considering the specific aspects, they could be ranked based on their rating means from the highest to the lowest as follows: that of the possession of digital technology leadership and vision, that of morality, ethics, and laws regarding the use of digital technology, that of creating a digital learning culture, that of personnel development, that of curriculum administration and learning management using digital technology, and that of development of schools using digital technology; 2) regarding the comparison results of digital leadership of school administrators, as classified by school size, it was found that there were no differences; and 3) guidelines for developing the digital leadership of school administrators were as follows: the school administrators should develop themselves in using digital technology in management, develop teachers and personnel in using digital technology in learning management, use technology with consideration to morality, ethics and the law, and monitor, follow up, and evaluate digital technology operations systematically and continuously.

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับภาวะผู้นำดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษา 2) เปรียบเทียบระดับภาวะผู้นำดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษา จำแนกตามขนาดสถานศึกษา และ 3) ศึกษาแนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจันทบุรี เขต 1กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ครูผู้สอนในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจันทบุรี เขต 1 จำนวน 306 คน ได้จากการเปิดตารางของเครจซี่และมอร์แกน และสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้น เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามแบบมาตรประมาณค่าเกี่ยวกับภาวะผู้นำดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษามีค่าความเที่ยงเท่ากับ .97 และแบบสัมภาษณ์แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษา สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และการวิเคราะห์เนื้อหาผลการวิจัยพบว่า 1) ภาวะผู้นำดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษาในภาพรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านเรียงตามลำดับค่าเฉลี่ยสูงสุดไปหาค่าเฉลี่ยต่ำสุด ดังนี้ การมีภาวะผู้นำและวิสัยทัศน์เกี่ยวกับเทคโนโลยีดิจิทัล คุณธรรม จริยธรรม และกฎหมายการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล การสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ดิจิทัล การพัฒนาบุคลากร การบริหารหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล การพัฒนาสถานศึกษาโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล 2) การเปรียบเทียบภาวะผู้นำดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษา จำแนกตามขนาดของสถานศึกษา พบว่าไม่แตกต่างกัน และ 3) แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษาควรพัฒนาตนเองในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการบริหารจัดการ ควรพัฒนาครู และบุคลากรในนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการจัดการเรียนรู้ ควรใช้เทคโนโลยีอย่างมีคุณธรรม จริยธรรม และถูกต้องตามกฎหมาย ควรกำกับ ติดตาม ประเมินผลการดำเนินงานด้านเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง