Marketing Communication and Technology Acceptance Affecting Electric Vehicle Purchase Intention in Bangkok Metropolitan Region

Abstract

The objectives of this study were: (1) to compare the differences of electric vehicle purchase intention between Bangkok Metropolitan Region classified by personal factors; (2) to analyze marketing communication factors that influenced electric vehicle purchase intention in Bangkok Metropolitan Region; and (3) to analyze the technological acceptance factors that influenced electric vehicle purchase intention in Bangkok Metropolitan Region.This study used quantitative research methodology. The population was people who had never owned electric vehicle, hold driver's license, aged between 26 and 60 years old, and domiciled in Bangkok Metropolitan Region. The exact number is unknown. The sample size was calculated by using Cochran's formula and obtained 400 samples that were selected by purposive sampling method. The data collection instrument was a questionnaire. Data analysis employed descriptive statistics including percentage, frequency, mean, and standard deviation and inferential statistics including independent sample T-test, One-way analysis of variance and multiple regression analysis. The findings of this study revealed that (1) electric vehicle purchase intention in Bangkok Metropolitan Region differed according to personal factors such as income, frequency of car use per week, the distance of traveling each day and influential person of vehicle purchasing at statistically significant at the 0.05 level; (2) marketing communication factors included of sales promotions. selling using salespeople and public relations influenced towards electric vehicle purchase intention in Bangkok Metropolitan Region at statistically significantly at the 0.05 level, which abled to predict together with; electric vehicle purchase intention at 21.9 percent; and (3) technology acceptance factors comprised of social and environmental impacts, the ease of use, efficiency, perception of benefits, and price value influenced electric vehicle purchase intention in Bangkok Metropolitan Region at statistically significant at the 0.05 level, which abled to predict together with electric vehicle purchase intention at 58.2 percent.

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) เปรียบเทียบความแตกต่างความตั้งใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้าของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล (2) วิเคราะห์ปัจจัยด้านการสื่อสารทางการตลาดที่มีอิทธิพลต่อความตั้งใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และ (3) วิเคราะห์ปัจจัยด้านการยอมรับเทคโนโลยีที่มีอิทธิพลต่อความตั้งใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลการศึกษานี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ ประชากรเป็นผู้บริโภคที่ยังไม่เคยมีรถยนต์ไฟฟ้าใช้ มีใบขับขี่ อายุระหว่าง 26 ถึง 60 ปี และมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งไม่ทราบจำนวนที่แน่นอน ขนาดกลุ่มตัวอย่างคำนวณโดยใช้สูตรของครอแครน ได้ขนาดกลุ่มตัวอย่าง 400 คน ใช้วิธีสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง เครื่องมือในการศึกษาคือ แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าร้อยละ ความถี่ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และใช้สถิติเชิงอนุมาน ได้แก่ การทดสอบค่าที วิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และวิเคราะห์สมการถดถอยพหุคูณผลการศึกษาพบว่า (1) ความตั้งใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีความแตกต่างตามปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ รายได้ ความถี่ในการใช้รถยนต์ต่อสัปดาห์ จำนวนระยะทาง ที่ต้องเดินทางในแต่ละวัน และผู้มีอิทธิพลต่อการเลือกซื้อรถยนต์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (2) ปัจจัยด้านการสื่อสารทางการตลาด ได้แก่ การส่งเสริมการขาย การขายโดยใช้พนักงานขาย และ การประชาสัมพันธ์ มีอิทธิพลต่อความตั้งใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ซึ่งสามารถร่วมกันพยากรณ์ความตั้งใจซื้อ ได้ร้อยละ 21.9 และ (3) ปัจจัยด้านการยอมรับเทคโนโลยี ได้แก่ ผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ความง่ายต่อการใช้งาน ประสิทธิภาพการใช้งาน การรับรู้ถึงประโยชน์ และความคุ้มค่าในด้านราคา มีอิทธิพลต่อความตั้งใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ซึ่งสามารถร่วมกันพยากรณ์ความตั้งใจซื้อ ได้ร้อยละ 58.2