Please use this identifier to cite or link to this item:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/13600
Title: | การส่งเสริมการจัดการโซ่อุปทานมะเขือเทศเชอรี่แดงของเกษตรกรในโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงขุนสถาน ตำบลสันทะ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน |
Other Titles: | Extention of red cherry tomato supply chain menagement by farmers in the Highland Development Project, Khun Sathan Royal Project, Santha Sub-district, NaNoi District, Nan Province. |
Authors: | บำเพ็ญ เขียวหวาน ชนิตา ทิศเป็ง มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา เบญจมาศ อยู่ประเสริฐ |
Keywords: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาเกษตรศาสตร์และสหกรณ์--วิทยานิพนธ์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วิชาเอกส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร--วิทยานิพนธ์ มะเขือเทศเชอรี่แดง--การผลิต |
Issue Date: | 2566 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
Abstract: | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษา 1) สภาพพื้นฐานส่วนบุคคล สภาพเศรษฐกิจ และสังคมของเกษตรกร 2) สภาพการผลิตมะเขือเทศเชอรี่แดงของเกษตรกร 3) การจัดการโซ่อุปทานมะเขือเทศเชอรี่แดงของเกษตรกร 4) ความรู้ แหล่งความรู้เกี่ยวกับการจัดการโซ่อุปทานมะเขือเทศเชอรี่แดงของเกษตรกร 5) ความคิดเห็น ความต้องการส่งเสริมเกี่ยวกับการจัดการ โซ่อุปทานมะเขือเทศเชอรี่แดงของเกษตรกร เจ้าหน้าที่คัดบรรจุและลูกค้าปลายทาง 6) ปัญหา ข้อเสนอแนะ สภาพแวดล้อมภายใน ภายนอก และแนวทางการส่งเสริมการจัดการโซ่อุปทานมะเขือเทศเชอรี่แดงของเกษตรกรประชากรในการวิจัย มี 3 กลุ่ม ได้แก่ 1) เกษตรกรผู้ปลูกมะเขือเทศเชอรี่แดงของโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงขุนสถาน ปี 2566 จำนวน 15 ราย และ 2) เจ้าหน้าที่คัดบรรจุ จำนวน 6 ราย ทำการเก็บข้อมูลทั้งหมด 3) ลูกค้าปลายทางที่รับซื้อผลผลิตมะเขือเทศเชอรี่แดง จำนวน 3 ราย ทำการคัดเลือกแบบเจาะจง จัดเก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนา และการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายในและภายนอก ผลการวิจัยพบว่า 1) เกษตรกร ร้อยละ 60.0 เป็นเพศชาย มีอายุเฉลี่ย 46 ปี มีประสบการณ์ในการปลูกมะเขือเทศ เฉลี่ย 6 ปี มีต้นทุนการปลูกมะเขือเทศเชอรี่แดงเฉลี่ย 13,533.33 บาท/รอบ มีรายได้จากการปลูกมะเขือเทศฯเฉลี่ย 136,000 บาท/รอบ 2) เกษตรกร ร้อยละ 73.3 รับกล้าจากโครงการพัฒนาพื้นที่สูงฯขุนสถาน พันธุ์ที่ใช้ ได้แก่ ทับทิมแดง ปลูกในระบบโรงเรือนปิด การให้ปุ๋ยและน้ำผ่านระบบน้ำหยด ผลผลิตเฉลี่ยต่อรอบ 3,913.33 กิโลกรัม ราคาจำหน่ายเฉลี่ยเกรด 1 ราคา 38.66 บาท/กิโลกรัม 3) การจัดการโซ่อุปทาน ด้านต้นน้ำเกษตรกรมีการวางแผนการผลิตและการตลาดร่วมกันภายในกลุ่ม มีเจ้าหน้าที่โครงการพัฒนาพื้นที่สูงฯขุนสถานเป็นที่ปรึกษา ด้านกลางน้ำเกษตรกรมีการผลิตภายใต้มาตรฐาน GAP ด้านปลายน้ำเกษตรกรจำหน่ายผลผลิต 3 ช่องทาง คือ ตลาดมูลนิธิโครงการหลวง ตลาดข้อตกลง และตลาดท้องถิ่น 4) ความรู้ของเกษตรกรอยู่ในระดับดีมาก โดยได้รับความรู้จากการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ร่วมกันของสมาชิกภายในกลุ่มมากที่สุด รองลงมาได้รับความรู้จากสื่อเทคโนโลยีฯ ที่มีการเผยแพร่ทั่วไป 5) เกษตรกรให้ความสำคัญในการผลิตระดับต้นน้ำมากที่สุดโดยมีความต้องการสนับสนุนปัจจัยการผลิตได้แก่ ต้นกล้า ปุ๋ย และสารเคมี รองลงมาคือมีความต้องการส่งเสริมพัฒนาความรู้ทักษะ 6) ข้อเสนอแนะของเกษตรกร มีข้อคิดเห็นว่าควรมีการสนับสนุนให้เกิดการผลิตที่มีความต่อเนื่อง ในส่วนเจ้าหน้าที่คัดบรรจุ และลูกค้าปลายทาง มีข้อเสนอแนะที่สำคัญคือ ผลผลิตของเกษตรกรได้รับรองมาตรฐาน GAP สร้างความเชื่อมั่นแก่ลูกค้าทำให้การจำหน่ายได้ง่าย แต่ยังมีข้อจำกัดในเรื่องของความสม่ำเสมอของผลผลิตที่เกษตรกรยังไม่สามารถทำได้อย่างต่อเนื่อง โอกาสที่สำคัญอีกอย่างของเกษตรกรคือการได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ทั้งปัจจัยการผลิตบางส่วน การติดตามให้คำแนะนำ และองค์ความรู้ โดยในอนาคตมีแนวทางการส่งเสริม สนับสนุนองค์ความรู้ทั้งรูปแบบออนไลน์ผ่านช่องทาง Social Media และสื่อออฟไลน์ เอกสาร หนังสือ/คู่มือ แผ่นพับ หรือการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เช่น นิทรรศการเป็นต้น เพื่อให้เกิดการเข้าถึงที่ครอบคลุมและรวดเร็วต่อไป |
Description: | วิทยานิพนธ์ (กษ.ม. (ส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2566 |
URI: | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/13600 |
Appears in Collections: | Agri-Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
2659000414.pdf | 1.81 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.