กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/13652
ชื่อเรื่อง: แนวทางการส่งเสริมการใช้ไตรโคเดอร์มาในการผลิตทุเรียนของเกษตรกรอำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี
ชื่อเรื่องอื่นๆ: Extention guidelines of trichoderma spp. usage for durian production of farmers in Nadi District, Prachinburi Province
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: พลสราญ สราญรมย์
เสาวลักษณ์ ไกรฉวี
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา
เบญจมาศ อยู่ประเสริฐ
คำสำคัญ: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาเกษตรศาสตร์และสหกรณ์--วิทยานิพนธ์
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วิชาเอกส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร--วิทยานิพนธ์
ไตรโคเดอร์มา
ทุเรียน--ไทย--ปราจีนบุรี--การผลิต
วันที่เผยแพร่: 2566
สำนักพิมพ์: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
บทคัดย่อ: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) สภาพพื้นฐานทั่วไป สังคม และเศรษฐกิจของเกษตรกร 2) ความรู้และแหล่งความรู้ที่ได้รับเกี่ยวกับไตรโคเดอร์มาของเกษตรกร 3) ความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้ไตรโคเดอร์มาในการผลิตทุเรียนของเกษตรกร 4) ความต้องการในการส่งเสริมการใช้ไตรโคเดอร์มาในการผลิตทุเรียนของเกษตรกร 5) วิเคราะห์แนวทางการส่งเสริมและพัฒนาการใช้ไตรโคเดอร์มาในการผลิตทุเรียนของเกษตรประชากรที่ศึกษา ได้แก่ 1) เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนในพื้นที่อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี ที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับสำนักงานเกษตรอำเภอนาดี ปีการผลิต 2565/2566 จำนวน 172 ราย กำหนดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้สูตรของ ทาโร ยามาเน่ ที่ความคาดเคลื่อน 0.05 ได้ขนาดกลุ่มตัวอย่าง 121 ราย สุ่มตัวอย่างแบบง่าย เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์ ใช้สถิติพรรณนาในการวิเคราะห์ข้อมูล 2) ผู้ให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริมการ ใช้ไตรโคเดอร์มา คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงจากผู้ที่สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริมการ ใช้ไตรโคเดอร์มา จำนวน 5 คน และเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรผู้รับผิดชอบในอำเภอนาดี จำนวน 1 คนผลการวิจัยพบว่า 1) เกษตรกรส่วนมากเป็นพศชาย อายุเฉลี่ย 53.51 ปี ส่วนใหญ่การศึกษาระดับประถมศึกษา และส่วนใหญ่ไม่เป็นสมาชิกกลุ่มหรือสถาบันเกษตรกร ประสบการณ์ปลูกทุเรียนเฉลี่ย 8.5 ปี รายได้จากการผลิตทุเรียนเฉลี่ย 107,605.26 บาท/ปี ต้นทุนชีวภัณฑ์ในการผลิตทุเรียนเฉลี่ย 1,201.89 บาท/ปี 2) เกษตรกรมีความรู้เกี่ยวกับไตรโคเดอร์มา อยู่ในระดับมากที่สุด โดยได้รับแหล่งความรู้จากสื่อบุคคลในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง และได้รับแหล่งเรียนรู้จากสื่อกิจกรรมและสื่อมวลชนในภาพรวมอยู่ในระดับน้อย 3) เกษตรกรมีความเห็นต่อการใช้ไตรโคเดอร์มาอยู่ในระดับมากที่สุด ในประเด็น ความมั่นใจในประสิทธิภาพ มั่นใจว่าไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพผู้บริโภค และทำให้ต้นทุเรียนแข็งแรงกว่าใช้สารเคมี 4) เกษตรกรมีความต้องการในการส่งเสริมการใช้ไตรโคเดอร์มาด้านผู้ส่งเสริมด้านเนื้อหา และด้านวิธีการในภาพรวมอยู่ในระดับมาก 5) แนวทางส่งเสริมการใช้ไตรโคเดอร์มา ประกอบด้วย การสร้างกลุ่มและเครือข่ายเกษตรกร และการพัฒนาเกษตรกรต้นแบบหรือเกษตรกรผู้นำเพื่อส่งเสริมการใช้ไตรโคเดอร์มาแก่เกษตรกรทั่วไป โดยใช้การเรียนรู้จากการฝึกปฏิบัติ และวิธีการส่งเสริมอื่น ๆ ที่หลากหลาย
รายละเอียด: วิทยานิพนธ์ (กษ.ม. (ส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2566
URI: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/13652
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:Agri-Theses

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
2659001388.pdf1.21 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น