Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/13666
Title: ความต้องการการส่งเสริมการผลิตส้มโอตามมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีของเกษตรกร ในอำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร
Other Titles: Extension needs for pomelo production adhering good agricultural practice of farmers in Phoprathapchang District, Phichit Province
Authors: พลสราญ สราญรมย์
สลิลทิพย์ อยู่สบาย
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา
เฉลิมศักดิ์ ตุ้มหิรัญ
Keywords: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาเกษตรศาสตร์และสหกรณ์--วิทยานิพนธ์
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วิชาเอกส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร--วิทยานิพนธ์
ส้มโอ--การผลิต
การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี--ไทย--พิจิตร
Issue Date: 2566
Publisher: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) สภาพทั่วไป สภาพสังคมและสภาพทางเศรษฐกิจของเกษตรกรในอำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร (2) สภาพการผลิตส้มโอของเกษตรกร (3) สภาพการปฏิบัติตามมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีของเกษตรกร (4) ปัญหาในการผลิตส้มโอตามมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีของเกษตรกร และ (5) ความต้องการการส่งเสริมของเกษตรกรผู้ปลูกส้มโอตามมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีของเกษตรกรประชากรที่ใช้ในการศึกษา คือ เกษตรกรผู้ปลูกส้มโอในพื้นที่อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร ที่ได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับสำนักงานเกษตรอำเภอโพธิ์ประทับช้าง ในปีการผลิต 2566 และยังไม่ได้รับรองมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตร จำนวน 113 ราย ศึกษาจากประชากรทั้งหมด ใช้วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสัมภาษณ์ วิธีการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ ความถี่ ร้อยละ ค่าต่ำสุด ค่าสูงสุด ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการจัดอันดับผลการศึกษาพบว่า (1) เกษตรกรร้อยละ 67.3 เป็นเพศหญิง มีอายุเฉลี่ย 46.17 ปี จบการศึกษาระดับประถมศึกษา จำนวนสมาชิกในครัวเรือนเฉลี่ย 3.97 คน มีจำนวนแรงงานในครัวเรือนในการประกอบอาชีพเกษตรเฉลี่ย 2.70 คน มีจำนวนแรงงานจ้างในการประกอบอาชีพเกษตรเฉลี่ย 1.49 คน ประสบการณ์ปลูกส้มโอเฉลี่ย 8.26 ปี มีพื้นที่ปลูกส้มโอเฉลี่ย 11.31 ไร่ มีรายได้จากการขายผลผลิตส้มโอเฉลี่ย 21,411.50 บาท มีรายจ่ายในการผลิตส้มโอเฉลี่ย 10,570.80 บาท เกษตรกรร้อยละ 93.8 ปลูกส้มโอพันธุ์ขาวแตงกวา ลักษณะพื้นที่ปลูกส้มโอ ร้อยละ 95.6 มีลักษณะพื้นที่ปลูกเป็นที่ราบ ร้อยละ 86.7 ใช้แหล่งน้ำในการผลิตส้มโอจากบ่อบาดาล (2) เกษตรกรปฏิบัติตามมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีอยู่ในระดับมาก โดยปฏิบัติได้อันดับสุดท้าย คือ การจดบันทึกตามข้อกำหนดของ GAP (3) ปัญหา พบว่าเกษตรกรมีปัญหาระดับมากที่สุด คือ เกษตรกรไม่ชอบการจดบันทึกตามข้อกำหนดของ GAP ปัญหาระดับมาก คือ ความรู้ด้านมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี ขั้นตอนการขอรับรอง ค่อนข้างยุ่งยากและซับซ้อน เกษตรกรไม่เห็นความสำคัญของมาตรฐาน GAP ขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่อง มาตรฐาน GAP และไม่สามารถทำตามข้อกำหนดของ GAP ได้ครบ (4) เกษตรกรมีความต้องการต้องการส่งเสริมในระดับมากที่สุดในด้านความรู้ในเรื่องวิธีการจดบันทึกตามข้อกำหนดของ GAP ขั้นตอนและวิธีการขอรับรองมาตรฐาน GAP การป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูส้มโอ การตลาด การดูแลระยะออกผลและบำรุงผล การป้องกันและกำจัดโรคส้มโอ ความสำคัญของมาตรฐาน GAP การจัดการปุ๋ยเคมีในการผลิตส้มโอ และการดูแลระยะใบอ่อน – ออกดอก
Description: วิทยานิพนธ์ (กษ.ม. (ส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2566
URI: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/13666
Appears in Collections:Agri-Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
2659001792.pdf1.2 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.