พฤติกรรมการใช้บริการฝากเงินออนไลน์ของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาญจนบุรี จำกัด

Abstract

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) พฤติกรรมการใช้บริการฝากเงินออนไลน์ของสมาชิก 2) ระดับความสำคัญของปัจจัยด้านสหกรณ์ 3) ความสัมพันธ์ของปัจจัยส่วนบุคคลและปัจจัยด้านสหกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการใช้บริการฝากเงินออนไลน์ของสมาชิก และ 4) ข้อเสนอแนะในการพัฒนาการให้บริการเงินฝากออนไลน์ การศึกษานี้เป็นการวิจัยแบบสำรวจ ประชากรที่ศึกษา คือ สมาชิกที่ใช้บริการฝากเงินออนไลน์ของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาญจนบุรี จำกัด กำหนดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้การคำนวณจากสูตรที่ไม่ทราบจำนวนประชากรที่แน่นอนของดับเบิลยู จี โคเชน ที่ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 95 ได้กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 200 คน ใช้แบบสอบถามในการเก็บรวมข้อมูลด้วยวิธีสุ่มตัวอย่างอย่างง่าย สถิติที่ใช้ ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ คะแนนเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบไคสแควร์ และการวิเคราะห์เชิงคุณภาพใช้การวิเคราะห์เนื้อหา ผลการศึกษา พบว่า สมาชิกสหกรณ์ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุ 31 – 40 ปี การศึกษาปริญญาตรี สถานภาพสมรส ระยะเวลาเป็นสมาชิก 11 – 15 ปี ปี รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 35,001 – 45,000 บาท รายจ่ายเฉลี่ยต่อเดือน 9,000 บาทขึ้นไป และสมาชิกมีระยะทางที่มาสหกรณ์ 21 – 30 กิโลเมตร 1) พฤติกรรมการใช้บริการฝากเงินออนไลน์พบว่า สมาชิกส่วนใหญ่ใช้บริการเงินฝากประเภทออมทรัพย์ ปริมาณการฝากเงินในแต่ละครั้ง 5,000 บาท ขึ้นไป ความถี่ใช้บริการ 1 ครั้ง/เดือน และช่วงเวลาในการใช้บริการ 07.00 – 12.00 น. 2) ระดับความสำคัญของปัจจัยด้านสหกรณ์โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยด้านระบบเทคโนโลยี ด้านความพร้อม และด้านเจ้าหน้าที่ อยู่ในระดับมากที่สุด ด้านผลิตภัณฑ์ และด้านการโฆษณาประชาสัมพันธ์ อยู่ในระดับมาก 3) ความสัมพันธ์ของปัจจัยส่วนบุคคลกับพฤติกรรมการใช้บริการฝากเงินออนไลน์ของสมาชิกที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 ได้แก่ อายุ สถานภาพ การศึกษา ระยะเวลาการเป็นสมาชิก รายได้ต่อเดือน รายจ่ายต่อเดือน และระยะทางที่มาสหกรณ์ ความสัมพันธ์ของปัจจัยด้านสหกรณ์กับพฤติกรรมการใช้บริการฝากเงินออนไลน์ของสมาชิกที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 ได้แก่ ด้านความพร้อม และด้านการโฆษณาประชาสัมพันธ์ และ 4) ข้อเสนอแนะ สหกรณ์ควรมีการเพิ่มช่องทางการให้บริการ เช่น แพลตฟอร์มออนไลน์ที่ใช้งานง่าย ควรให้ความสำคัญในการมีช่องทางประชาสัมพันธ์ที่หลากหลายและต่อเนื่อง