Please use this identifier to cite or link to this item:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/13700
Title: | แนวทางการส่งเสริมการตลาดทุเรียนพันธุ์หมอนทองของเกษตรกร อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส |
Other Titles: | Extension guidelines in Mon Thong Durian marketing of farmers in Chanae District Narathiwat Province |
Authors: | พลสราญ สราญรมย์ อโณชา จี๋คีรี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา สินีนุช ครุฑเมือง แสนเสริม |
Keywords: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาเกษตรศาสตร์และสหกรณ์--วิทยานิพนธ์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วิชาเอกส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร--วิทยานิพนธ์ ทุเรียน--การตลาด |
Issue Date: | 2566 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
Abstract: | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) สภาพทั่วไป สภาพพื้นฐานทางสังคม และสภาพพื้นฐานทางเศรษฐกิจของเกษตรกร 2) ความรู้และการปฏิบัติการตลาดทุเรียนพันธุ์หมอนทองของเกษตรกร 3) ความต้องการส่งเสริมเกี่ยวกับการจัดการตลาดทุเรียนพันธุ์หมอนทองของเกษตรกร และ 4) แนวทางการส่งเสริมการตลาดทุเรียนพันธุ์หมอนทองของเกษตรกรการวิจัยนี้เป็นงานวิจัยแบบสำรวจ ประชากรที่ศึกษา คือ เกษตรผู้ปลูกทุเรียนพันธุ์หมอนทองในอำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส ที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรปี 2566 จำนวนทั้งหมด 873 ราย กำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่าง โดยใช้สูตรของทาโร ยามาเน ที่ค่าความคลาดเคลื่อน 0.07 ได้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 166 คน สุ่มตัวอย่างแบบง่าย เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนา ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าต่ำสุด ค่าสูงสุด ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการจัดอันดับ ผลการวิจัย พบว่า 1) เกษตรกรส่วนใหญ่เป็นเพศชาย อายุเฉลี่ย 49.57 ปี พื้นที่ปลูกทุเรียนเฉลี่ย 5.26 ไร่ จำนวนต้นทุเรียนเฉลี่ย 20.04 ต้น/ไร่ ปริมาณผลผลิตทุเรียนปี 2566 เฉลี่ย 748.60 กิโลกรัม/ไร่ ประสบการณ์การปลูก เฉลี่ย 8.67 ปี และมีรายได้ปี 2566 เฉลี่ย 64,884.23 บาท/ไร่ มีต้นทุน เฉลี่ย 6,182.23 บาท/ไร่ 2) เกษตรกรมีความรู้และการปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดการตลาดทุเรียนพันธุ์หมอนทองระดับมากทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ด้านผลิตภัณฑ์ ด้านราคา ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย และด้านส่งเสริมการขาย โดยมีความรู้อันดับสุดท้าย คือ ด้านผลิตภัณฑ์ ในเรื่องน้ำหนักทุเรียน ที่ตลาดต้องการ ต้องมีน้ำหนักไม่น้อยกว่า 2 กิโลกรัม และไม่เกิน 5 กิโลกรัม และไม่มีการปฏิบัติ ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย จากการจำหน่ายผ่านช่องทางวิสาหกิจชุมชน/แปลงใหญ่ สหกรณ์การเกษตร ศูนย์คัดแยกผลไม้ชุมชน และห้างสรรพสินค้า สาหตุเนื่องจากขาดแรงงาน 3) เกษตรกรมีความต้องการส่งเสริมด้านเนื้อหาในภาพรวมระดับมากที่สุด โดยต้องการส่งเสริมอันดับแรกด้านผลิตภัณฑ์ ได้แก่ การออกแบบสินค้า การทำตราสัญลักษณ์ และการทำบรรจุภัณฑ์ ด้านราคา ได้แก่ การกำหนดราคา การลดราคา และเงื่อนไขการขาย ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย ได้แก่ พื้นที่การขาย เส้นทางการขนส่งสินค้า และเครือข่ายการจัดจำหน่าย ด้านกลยุทธ์ส่งเสริมการขาย ได้แก่ การโฆษณา การจัดกิจกรรม ประชาสัมพันธ์ และการสนับสนุนการขาย ทั้งนี้ เกษตรกรมีความต้องการด้านวิธีการส่งเสริมอันดับแรก คือ วิธีการส่งเสริมแบบบุคคและกลุ่มบุคคล 4) แนวทางส่งเสริมการตลาดทุเรียน ควรเน้นการรวมกลุ่มเกษตรกร การประชาสัมพันธ์ถึงคุณค่าทุเรียนพันธุ์หมอนทองในพื้นที่ เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงเครือข่ายทางการตลาด |
Description: | วิทยานิพนธ์ (กษ.ม. (ส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2566 |
URI: | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/13700 |
Appears in Collections: | Agri-Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
2659002584.pdf | 1.21 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.