Please use this identifier to cite or link to this item:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/13701| Title: | แนวทางการส่งเสริมและพัฒนาการจัดการแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรของ กลุ่มแปลงใหญ่พืชผักตำบลนาดี อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี |
| Other Titles: | Extension and development guidelines for agri-tourism management of vegetable collaborative farming group in Nadee sub-district, Mueang Udon Thani District, Udon Thani Province |
| Authors: | สินีนุช ครุฑเมือง แสนเสริม วนัสบดี อุปพระจันทร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา บำเพ็ญ เขียวหวาน |
| Keywords: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาเกษตรศาสตร์และสหกรณ์--วิทยานิพนธ์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วิชาเอกส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร--วิทยานิพนธ์ การท่องเที่ยวเชิงเกษตร--ไทย--อุดรธานี |
| Issue Date: | 2566 |
| Publisher: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
| Abstract: | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ข้อมูลทั่วไปของผู้บริหาร เจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐ ผู้นำชุมชน และเกษตรกร 2) การมีส่วนร่วมของชุมชนและความพร้อมในการจัดการแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรของกลุ่มแปลงใหญ่พืชผักตำบลนาดี 3) ศักยภาพการจัดการท่องเที่ยวเชิงเกษตรของกลุ่มแปลงใหญ่พืชผักตำบลนาดี 4) รูปแบบที่เหมาะสมในการจัดการแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรของกลุ่มแปลงใหญ่พืชผักตำบลนาดี และ 5) แนวทางการส่งเสริมและพัฒนาการจัดการแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรกลุ่มแปลงใหญ่พืชผักตำบลนาดีประชากรและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่หนึ่ง คือ กลุ่มผู้บริหารและเจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐ ผู้นำชุมชนในพื้นที่ตำบลนาดี จำนวน 48 คน โดยสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจงจำนวน 30 คน กลุ่มที่สอง คือ เกษตรกรกลุ่มแปลงใหญ่พืชผักตำบลนาดี ปี 2566 จำนวน 110 คน โดยศึกษาจากประชากรทั้งหมดผลการวิจัย พบว่า 1)ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐ ผู้นำชุมชนในตำบลนาดี ร้อยละ 73.3 เป็นเพศหญิง มีอายุเฉลี่ย 47.80 ปี และร้อยละ 96.7 เห็นว่าประโยชน์ที่ชุมชนเป็นจุดท่องเที่ยวเชิงเกษตร คือ คนในชุมชนมีอาชีพ เกษตรกรกลุ่มแปลงใหญ่พืชผักตำบลนาดี ร้อยละ 56.4 เป็นเพศหญิง มีอายุเฉลี่ย 56.77 ปี ร้อยละ 60.9 ไม่ได้รับความรู้เกี่ยวกับการจัดการแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ร้อยละ 64.5 เห็นว่าประโยชน์ที่ชุมชนเป็นจุดท่องเที่ยวเชิงเกษตร คือ สร้างรายได้ให้กับชุมชน 2) ชุมชน/คนในชุมชนมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรอยู่ในระดับปานกลาง ในด้านการรับประโยชน์ ด้านการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชน ด้านวางแผนพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว และด้านริเริ่มพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร 3) ชุมชน/คนในชุมชนมีความพร้อมในการจัดการแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรอยู่ในระดับปานกลาง ในด้านกิจกรรมท่องเที่ยว และด้านองค์กรชุมชนและเจ้าของภูมิปัญญา โดยกลุ่มผู้บริหารและเจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐ ผู้นำชุมชน เห็นว่า กลุ่มแปลงใหญ่พืชผักตำบลนาดีมีศักยภาพที่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร อยู่ในระดับปานกลาง ในขณะที่กลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่พืชผักตำบลนาดี เห็นว่ามีศักยภาพน้อย 4) รูปแบบการจัดการท่องเที่ยวเชิงเกษตรของกลุ่มแปลงใหญ่พืชผักตำบลนาดี มีรูปแบบเหมาะสมอยู่ในระดับปานกลาง ในด้านบริการการท่องเที่ยวเชิงเกษตร และด้านตลาดการท่องเที่ยวเชิงเกษตร 5) กลุ่มตัวอย่างทั้งสองกลุ่ม เห็นด้วยกับแนวทางการพัฒนาการจัดการและกลยุทธ์แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรของกลุ่มแปลงใหญ่พืชผักตำบลนาดี ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ในด้านวิธีการส่งเสริมและการได้รับการสนับสนุนการจัดการแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรของกลุ่มแปลงใหญ่พืชผักตำบลนาดี |
| Description: | วิทยานิพนธ์ (กษ.ม. (ส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2566 |
| URI: | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/13701 |
| Appears in Collections: | Agri-Theses |
Files in This Item:
| File | Description | Size | Format | |
|---|---|---|---|---|
| 2659002592.pdf | 1.77 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.