Please use this identifier to cite or link to this item:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/13869
Title: | แนวทางการส่งเสริมการบริหารจัดการกลุ่มแปลงใหญ่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี |
Other Titles: | Extension guidelines for management administration of maize collaborative farming groups in Nong Chang District, Uthai Thani Province |
Authors: | สินีนุช ครุฑเมือง แสนเสริม สรินทร์ อินไชย มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา เบญจมาศ อยู่ประเสริฐ |
Keywords: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาเกษตรศาสตร์และสหกรณ์--วิทยานิพนธ์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วิชาเอกส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร--วิทยานิพนธ์ อาหารสัตว์จากข้าวโพด--ไทย--อุทัยธานี |
Issue Date: | 2566 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
Abstract: | การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ข้อมูลส่วนบุคคล สภาพพื้นฐานทางสังคมและเศรษฐกิจของเกษตรกรสมาชิกกลุ่มแปลงใหญ่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 2) การบริหารจัดการกลุ่มแปลงใหญ่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 3) ปัญหาการบริหารจัดการกลุ่มแปลงใหญ่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และ 4) ความต้องการแนวทางการส่งเสริมการบริหารจัดการกลุ่มแปลงใหญ่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบผสมผสาน ประชากรที่ศึกษา คือ เกษตรกรที่เป็นสมาชิกกลุ่มแปลงใหญ่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี ที่ขึ้นทะเบียนในระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่จำนวน 137 ราย โดยการวิจัยครั้งนี้ศึกษาจากประชากรทั้งหมด เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสัมภาษณ์ และการสนทนากลุ่ม วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณโดยใช้สถิติพรรณนา ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าต่ำสุด ค่าสูงสุด ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การจัดอันดับ และการวิเคราะห์ข้อมูล เชิงคุณภาพด้วยการสนทนากลุ่มจากกลุ่มผู้ให้ข้อมูลที่เป็นผู้เกี่ยวข้องจำนวน 12 ราย และวิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1) เกษตรกรร้อยละ 56.9 เป็นเพศหญิง อายุเฉลี่ย 55.95 ปี ร้อยละ 35.0 จบการศึกษาระดับประถมศึกษา มีประสบการณ์ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เฉลี่ย 14.36 ปี จำนวนสมาชิกในครัวเรือน เฉลี่ย 3.82 คน ไม่มีตำแหน่งทางสังคม ร้อยละ 89.8 ประกอบอาชีพหลักคือทำนา ร้อยละ 98.5 มีรายได้จากภาคการเกษตรเฉลี่ย 245,107.30 บาทต่อปี มีรายได้จากนอกภาคการเกษตรเฉลี่ย 40,612.90 บาทต่อปี เกษตรกรร้อยละ 81.8 ใช้เงินส่วนตัวเป็นแหล่งเงินทุนและร้อยละ 64.2 มีแหล่งสินเชื่อจากธนาคาร 2) มีการบริหารจัดการกลุ่มแปลงใหญ่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ทั้ง 5 ด้าน ได้แก่ การวางแผน การจัดการองค์กร การจัดคนเข้าทำงาน การอำนวยการ และการควบคุม ในภาพรวมอยู่ในระดับมากทุกประเด็น โดยมีการบริหารจัดการกลุ่มสูงสุดในด้านการอำนวยการ 3) เกษตรกรมีปัญหาในการส่งเสริมการบริหารจัดการกลุ่มแปลงใหญ่ทั้ง 5 ด้านในภาพรวมอยู่ในระดับน้อยที่สุด โดยประเด็นที่เป็นปัญหาสูงสุด คือ ด้านการจัดคนเข้าทำงาน 4) เกษตรกรมีความต้องการแนวทางการส่งเสริมการบริหารจัดการกลุ่มแปลงใหญ่ทั้ง 5 ด้าน ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ซึ่งประเด็นที่มีความต้องการแนวทางการส่งเสริมการบริหารจัดการกลุ่มในระดับมากที่สุด คือ ด้านการวางแผน ในประเด็นที่กลุ่มควรมีการกำหนดแผนกิจกรรม แผนการผลิต การตลาดของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของสมาชิกร่วมกันและกลุ่มควรมีการกำหนดเป้าหมาย วัตถุประสงค์และทิศทางการดำเนินการของกลุ่มให้ชัดเจน |
Description: | วิทยานิพนธ์ (กษ.ม. (ส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2566 |
URI: | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/13869 |
Appears in Collections: | Agri-Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
2659001560.pdf | 1.72 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.