Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/1622
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorบุษบา สุธีธร, 2500-th_TH
dc.contributor.authorธิติ สิงห์คง, 2532-th_TH
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษาth_TH
dc.date.accessioned2022-09-22T07:41:16Z-
dc.date.available2022-09-22T07:41:16Z-
dc.date.issued2560-
dc.identifier.urihttp://ir.stou.ac.th/handle/123456789/1622en_US
dc.descriptionวิทยานิพนธ์ (นศ.ม. (นิเทศศาสตร์))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2560th_TH
dc.description.abstractการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) เปรียบเทียบการเปิดรับสื่อประชาสัมพันธ์ภายในองค์การของบุคลากรมหาวิทยาลัยนเรศวร ตามลักษณะทางประชากร 2) เปรียบเทียบความต้องการข้อมูล ข่าวสารประชาสัมพันธ์ของบุคลากรมหาวิทยาลัยนเรศวร ตามลักษณะทางประชากร 3) เปรียบเทียบความผูกพันองค์การของบุคลากรมหาวิทยาลัยนเรศวร ตามลักษณะทางประชากร และ 4) ความสัมพันธ์ระหว่างการเปิดรับสื่อประชาสัมพันธ์ภายในองค์การกับความผูกพันองค์การของบุคลากรมหาวิทยาลัยนเรศวร การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงสํารวจกลุ่มตัวอย่าง คือ บุคลากรสายวิชาการและสายสนับสนุนของ มหาวิทยาลัยนเรศวร จํานวน 367คน ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน การทดสอบค่าที่และการวิเคราะห์ความแปรปรวน ผลการวิจัยพบว่า บุคลากรมหาวิทยาลัยนเรศวร 1) เปิดรับสื่อประชาสัมพันธ์ภายในโดย รวมอยู่ในระดับปานกลาง โดยเปิดรับจากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นสื่อออนไลน์สื่ออิเล็กทรอนิกส์และ สื่อสิ่งพิมพ์แต่เปิดรับผ่านทางสื่อออนไลน์มากที่สุดและพบว่าการเปิดรับสื่อประชาสัมพันธ์มีความ แตกต่างกันตามลักษณะทางประชากร ได้แก่ เพศ อายุสถานภาพสมรส ระดับการศึกษา ตําแหน่งงาน ระยะเวลาในการทํางาน 2) ความต้องการข้อมูลข่าวสารประชาสัมพันธ์อยู่ในระดับมากทุกด้าน โดยด้านที่มากที่สุด คือ ด้านของข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสวัสดิการ สิทธิประโยชน์และผลประโยชน์ต่าง ๆ โดย แตกต่างตามลักษณะทางประชากร ได้แก่ เพศ อายุสถานภาพสมรส ระดับการศึกษา ตําแหน่งงาน ระยะเวลาในการทํางาน 3) บุคลากรมหาวิทยาลัยนเรศวร มีความผูกพันต่อองค์การอยู่ในระดับมากโดย ไม่มีความแตกต่างตามลักษณะทางประชากร ได้แก่ เพศอายุสถานภาพสมรส ระดับการศึกษา ตําแหน่งงาน ระยะเวลาในการทํางาน และ 4) การเปิดรับข้อมูลข่าวสารประชาสัมพันธ์ภายในมีความสัมพันธ์กับความผูกพันองค์การของบุคลากรมหาวิทยาลัยนเรศวรth_TH
dc.formatapplication/pdfen_US
dc.language.isothen_US
dc.publisherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rightsมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rightsAttribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0)en_US
dc.rights.urihttps://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0/en_US
dc.sourceBorn digitalen_US
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิเทศศาสตร์--วิทยานิพนธ์th_TH
dc.subjectพฤติกรรมข่าวสารth_TH
dc.subjectความผูกพันต่อองค์การth_TH
dc.titleการเปิดรับสื่อ ความต้องการข้อมูลข่าวสารประชาสัมพันธ์ภายในและความผูกพันที่มีต่อองค์การของบุคลากรมหาวิทยาลัยนเรศวรth_TH
dc.title.alternativeMedia exposure, needs for internal public relations information, and organizational engagement of Naresuan University staffsen_US
dc.typeThesisen_US
dc.degree.nameนิเทศศาสตรมหาบัณฑิตth_TH
dc.degree.levelปริญญาโทth_TH
dc.degree.disciplineสาขาวิชานิเทศศาสตร์th_TH
dc.degree.grantorมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.description.abstractalternativeThe objectives of this research were to study 1) the exposure of Naresuan University staff to internal public relations information, comparing different demographic groups; 2) the needs of Naresuan University staff for internal public relations information, comparing different demographic groups; 3) the level of organizational engagement of Naresuan University staff, comparing different demographic groups; and 4) the relationship between level of organizational engagement and exposure to internal public relations information. This was a survey research. The sample was 367 academic and support staff of Naresuan University chosen through multi-stage sampling. The research tool was a questionnaire. Data were statistically analyzed using percentage, mean, standard deviation, Pearson’s correlated coefficient, t test and analysis of variation. The results showed that 1) overall, the samples were exposed to the university’s internal public relations information to a medium degree. They received information via several channels including online media, electronic media, and print media, but through online media the most. Exposure varied for different demographic groups based on sex, age, marital status, educational level, work position and years of work experience. 2) Naresuan University staff expressed a high level need for internal public relations information of every type, especially news about employee welfare rights and benefits. Demand for internal public relations information varied for different demographic groups based on sex, age, marital status, educational level, work position and years of work experience. 3) The samples all had a high level of organizational engagement and no differences were detected among different demographic groups. 4) Exposure to internal public relations information was related to level of organizational engagementen_US
dc.contributor.coadvisorอัจฉราวรรณ อิศรางกูร ณ อยุธยาth_TH
Appears in Collections:Comm-Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Thesbib159371.pdfเอกสารฉบับเต็ม2.12 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons