Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/1649
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorเรณุการ์ ทองคำรอด, อาจารย์ที่ปรึกษาth_TH
dc.contributor.advisorกชพงศ์ สารการ, อาจารย์ที่ปรึกษาth_TH
dc.contributor.authorสุภาพร จันทร์สาม, 2518--
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษาth_TH
dc.date.accessioned2022-09-30T01:54:43Z-
dc.date.available2022-09-30T01:54:43Z-
dc.date.issued2560-
dc.identifier.urihttp://ir.stou.ac.th/handle/123456789/1649-
dc.descriptionวิทยานิพนธ์ (พย.ม. (การบริหารการพยาบาล))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2560th_TH
dc.description.abstractการวิจัยเชิงพัฒนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพึ๋อ 1) ศึกษาสภาพการณ์การมีส่วนร่วมของชุมชน ในการป้องกันการฆ่าตัวตาย จังหวัดยโสธร 2) พัฒนารูปแบบการมีส่วนร่วมของชุมชนในการป้องกัน การฆ่าตัวตายจังหวัดยโสธร และ 3) ประเมินผลการใช้รูปแบบการมีส่วนร่วมชองชุมชนในการป้องกัน การฆ่าตัวตาย จังหวัดยโสธร การวิจัยแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 ศึกษาสภาพการณ์การมีส่วนร่วมของ ชุมชนในการป้องกันการฆ่าตัวตาย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แบบสัมภาษณ์เชิงกึ่งโครงสร้าง ระยะที่ 2 การพัฒนารูปแบบการมีส่วนร่วมของชุมชนในการป้องกันการฆ่าตัวตาย เครื่องมือที่ใช้ในการ วิจัยได้แก่ กระบวนการ TOP Model และเทคนิค AIC และระยะที่ 3 การประเมินผลรูปแบบการมีส่วน ร่วมของชุมชนในการป้องกันการฆ่าตัวตายเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่แบบประเมินภาวะชึมเศร้า แบบทดสอบความรู้ในการป้องกันการฆ่าตัวตาย และแบบประเมินความพึงพอใจด่อการใช้รูปแบบการ มีส่วนร่วมของชุมชนในการป้องกันการฆ่าตัวตาย กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย จำนวน 56 คน ประกอบด้วย ผู้มีภาวะเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย ญาดิ แกนนำชุมชน และบุคลากรสาธารณสุข โดยเลือก แบบเจาะจง วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาดรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1) ยังไม่มีรูปแบบการมีส่วนร่วมของชุมชนในการป้องกันการฆ่าตัวตายที่ ชัดเจน ชุมชนยังขาดความเข้าใจและความตระหนักในความสำคัญของการป้องกันการฆ่าตัวตาย 2) รูปแบบการมีส่วนร่วมของชุมชนในการป้องกันการฆ่าตัวตายประกอบด้วยการมีส่วนร่วมของผมส่วน ได้ส่วนเสียในชุมชน การให้องค์ความรู้ การเสริมสร้างพลัง การเสริมสร้างสุขภาพจิด และสร้างชุมชน การเรียน และ 3) หลังการใช้รูปแบบการมีส่วนร่วมของชุมชนในการป้องกันการฆ่าตัวตายพบว่ากลุ่ม ตัวอย่างที่มีภาวะเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายมีคะแนนเฉลี่ยของภาวะซึมเศร้าลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิดิ บุคลากรมีความรู้ ทัศนคติและทักษะการป้องกันการฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และมี ความพึงพอใจต่อการใช้รูปแบบในระดับมากth_TH
dc.formatapplication/pdfen_US
dc.language.isothth_TH
dc.publisherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.relation.urihttps://www.doi.org/10.14457/STOU.the.2016.178en_US
dc.rightsมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rightsAttribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0)en_US
dc.rights.urihttps://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0/en_US
dc.sourceBorn digitalen_US
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาการบริหารการพยาบาล -- วิทยานิพนธ์th_TH
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาพยาบาลศาสตร์ -- วิทยานิพนธ์th_TH
dc.subjectการฆ่าตัวตาย -- การป้องกันth_TH
dc.subjectการฆ่าตัวตาย -- การป้องกัน -- การมีส่วนร่วมของประชาชนth_TH
dc.titleการพัฒนารูปแบบการมีส่วนร่วมของชุมชนในการป้องกันการฆ่าตัวตาย จังหวัดยโสธรth_TH
dc.title.alternativeThe development of community participation model for prevention suicide of Yasothon Provinceth_TH
dc.typeThesisth_TH
dc.identifier.DOI10.14457/STOU.the.2016.178en_US
dc.degree.nameพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต (การบริหารการพยาบาล)th_TH
dc.degree.levelปริญญาโทth_TH
dc.degree.disciplineสาขาวิชาพยาบาลศาสตร์th_TH
dc.degree.grantorมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.description.abstractalternativeThe purpose of this research and development were (1) to study the situation of community’s participation for preventing suicide in Yasothon province. 2) to develop the community participatory model for preventing suicide in Yasothon province and 3) to evaluate the community participatory model for preventing suicide in Yasothon province. This study divided into three phases. The first phase aimed to study the situation of community’s participation for preventing suicide in Yasothon province. The sample included 56 stakeholders. The research instrument was semi structure interview. The second phase aimed to develop the community participatory model for preventing suicide in Yasothon province. The research instrument were TOP Model Process and A-I-C Technique. The last phase aimed to evaluate the community participatory model for preventing suicide in Yasothon province. The research instrument were the depression inventory, the preventing suicide knowledge test, and the satisfaction questionnaire. The samples were 56 stakeholders comprised of the person who was at risk of suicide, relatives, community leaders and health personels. Data were analyzed by using frequency, percentage, mean, standard deviation. The research finding were as follows 1 ) There is no community involvement pattern in suicide prevention. The community lacked of the understanding and awareness of the importance of suicide prevention. 2) The community participatory model for preventing suicide in Yasothon province consisted of the stakeholder’s participation, giving knowledge, empowerment, promoting mental health and creating learning community. And 3) The sample who had high risk of suicide rated their depression at lower level. The health personels rated their knowledge, attitude, and practice in suicide prevention at higher level. They rated there satisfaction to the model at high level.en_US
Appears in Collections:Nurse-Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Thesbib159447.pdfเอกสารฉบับเต็ม2.41 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons