Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/1713
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorพูลสุข หิงคานนท์, อาจารย์ที่ปรึกษาth_TH
dc.contributor.advisorสุภมาส อังศุโชติ, อาจารย์ที่ปรึกษาth_TH
dc.contributor.authorบัวผัน เขตการ, 2510--
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษาth_TH
dc.date.accessioned2022-10-11T07:41:37Z-
dc.date.available2022-10-11T07:41:37Z-
dc.date.issued2550-
dc.identifier.urihttp://ir.stou.ac.th/handle/123456789/1713-
dc.descriptionวิทยานิพนธ์ (พย.ม. (การบริหารการพยาบาล))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2550th_TH
dc.description.abstractการวิจัยเชิงพรรณนา ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาคุณลักษณะผู้นำของพยาบาลวิชาชีพ ในโรงพยาบาลชุมชนจังหวัคนครสวรรค์ (2) ศึกษาประสิทธิผลการปฏิบัติงานของพยาบาลวิชาชีพใน โรงพยาบาลชุมชนจังหวัดนครสวรรค์ และ (3) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างคุณลักษณะผู้นำของพยาบาลวิชาชีพ และประสิทธิผลการปฏิบัติงานของพยาบาลวิชาชีพ ในโรงพยาบาลชุมชนจังหวัดนครสวรรค์ กลุ่มตัวอย่างเป็นพยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลชุมชน จังหวัดนครสวรรค์ จำนวน 210 คน สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน โดยสุ่มแบบแบ่งชั้นตามขนาดของโรงพยาบาล และการสุ่มตัวอย่างอย่าง ง่าย เครื่องมือวิจัยคือ แบบสอบถามที่มีค่าความเที่ยงของแบบสอบถามคุณลักษณะผู้นำของพยาบาลวิชาชีพ และ แบบสอบถามประสิทธิผลการปฎิบัติงานของพยาบาลวิชาชีพ เท่ากับ 0.98 และ 0.94 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูล ด้วยโปรแกรมสำเร็จรูป โดยการแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ สัมประสิทธิ์ สหสัมพันธ์เพียธ์สัน ผลการศึกษาพบว่า (1) คุณลักษณะผู้นำของพยาบาลวิชาชีพ ในโรงพยาบาลชุมชน โดยภาพรวม ทุกด้านอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย 3.96 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน .62 )( 2) ประสิทธิผลการปฏิบัติงานของพยาบาล วิชาชีพ ในโรงพยาบาลชุมชน โดยภาพรวมทุกด้านอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย 3.66 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน .68) (3 ) คุณลักษณะผู้นำของพยาบาลวิชาชีพ มีความสัมพันธ์ทางบวกในระดับสูงกับประสิทธิผลการปฏิบัติงานของ พยาบาลวิชาชีพ ที่ระดับนัยสำคัญ .01 (r - .749)th_TH
dc.formatapplication/pdfen_US
dc.language.isothth_TH
dc.publisherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rightsมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rightsAttribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0)en_US
dc.rights.urihttps://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0/en_US
dc.sourceBorn digitalen_US
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาการบริหารการพยาบาล -- วิทยานิพนธ์th_TH
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาพยาบาลศาสตร์ -- วิทยานิพนธ์th_TH
dc.subjectพยาบาล -- ภาระงานth_TH
dc.subjectภาวะผู้นำทางการศึกษาth_TH
dc.subjectสมรรถภาพในการทำงานth_TH
dc.titleความสัมพันธ์ระหว่างคุณลักษณะผู้นำและประสิทธิผลการปฏิบัติงานของพยาบาลชีพในโรงพยาบาลชุมชน จังหวัดนครสวรรค์th_TH
dc.title.alternativeThe relationship between leadership characteristics of professional nurses and the effectiveness of their performance at Community Hospitals in Nakhon Sawan Provinceth_TH
dc.typeThesisth_TH
dc.degree.nameพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิตth_TH
dc.degree.levelปริญญาโทth_TH
dc.degree.disciplineสาขาวิชาพยาบาลศาสตร์th_TH
dc.degree.grantorมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.description.abstractalternativeThe purposes of this research were: (1) to analyze the current situation and need for learning organization of the Nursing Department at Waengyai Hospital in Khonkaen Province, (2) to develop a model towards learning organization of the Nursing Department, and (3) to evaluate the new learning organization model. The subjects of this research were twenty professional nurses. Three research instruments developed by the researcher were used. They were (1) a situation analysis form for being a learning organization, (2) guidelines for developing the model, and (3) an evaluation form of the new learning organization model. The content validity was verified by four experts. The Cronbarch Alpha reliability coefficient of the learning organization situation questionnaires was 0.95. Research data were analyzed by descriptive statistics (frequency, percentage, mean, and standard deviation) and content analysis. The research findings were as follows. (1) Professional nurses rated the need for learning organization of the Nursing Department at Waengyai Hospital were at the high level. (2) The new model of learning organization was composed of nine components as follows: (a) Leadership, (b) Shared vision, (c) Organization atmosphere, (d) Team learning, (e) Organization management, (f) Application technology, (g) System thinking,(h) Personal mastery, and (i) Mental models. Finally, (3) the new learning organization model co-responded to the context of the Nursing Department. Above all, the new model led to the real implementation of loaming organization at Wacngyai Hospitalen_US
Appears in Collections:Nurse-Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Thesbib107364.pdfเอกสารฉบับเต็ม5.82 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons