Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/2175
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorวาริณี เอี่ยมสวัสดิกุล, อาจารย์ที่ปรึกษาth_TH
dc.contributor.advisorมุกดา หนุ่ยศรี, อาจารย์ที่ปรึกษาth_TH
dc.contributor.authorโสภาวรรณ มั่นเขตวิทย์, 2507--
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษาth_TH
dc.date.accessioned2022-11-15T02:28:19Z-
dc.date.available2022-11-15T02:28:19Z-
dc.date.issued2556-
dc.identifier.urihttp://ir.stou.ac.th/handle/123456789/2175-
dc.descriptionวิทยานิพนธ์ (พย.ม. (การบริหารการพยาบาล))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2556th_TH
dc.description.abstractการวิจัยเชิงพรรณนานี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) ความคิดและอารมณ์ที่เฉพาะต่อ การจัดการความขัดแย้งของพยาบาลวิชาชีพ (2) พฤติกรรมการจัดการความขัดแย้งของพยาบาล วิชาชีพ และ (3) อิทธิพลของความคิดและอารมณ์ที่เฉพาะต่อการจัดการความขัดแย้งต่อพฤติกรรม การจัดการความขัดแย้งของพยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลทั่วไป เขตตรวจราชการสาธารณสุขที่ 18 กลุ่มตัวอย่างเป็นพยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในกลุ่มการพยาบาลโรงพยาบาลทั่วไป เขตตรวจราชการสาธารณสุขที่ 18 จำนวน 163 คน ที่ได้จากการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย เครื่องมือที่ใช้ ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม ประกอบด้วย 3 ส่วน ส่วนที่ 1 ข้อมูลส่วนบุคคล ส่วนที่ 2 ความคิด และอารมณ์ที่เฉพาะต่อการจัดการความขัดแย้ง และส่วนที่ 3 พฤติกรรมการจัดการความขัดแย้ง มี ค่าความเที่ยงของแบบสอบถาม ส่วนที่ 2 และส่วนที่ 3 เท่ากับ 0.86 และ 0.98 ตามลำดับ สถิติที่ใช้ ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการ วิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแบบเพิ่มตัวแปรเป็นขั้นตอน ผลการศึกษาพบว่า พยาบาลวิชาชีพมี (1) ความคิดและอารมณ์ที่เฉพาะต่อการจัดการ ความขัดแย้งโดยรวมอยู่ในระดับสูง (2) พฤติกรรมการจัดการความขัดแย้งอยู่ในระดับปานกลาง (3) การรับรู้สมรรถนะแห่งตนในการจัดการความขัดแย้งและอิทธิพลจากสถานการณ์ต่อการจัดการ ความขัดแย้ง มีอิทธิพลทางบวกและร่วมกันอธิบายความแปรปรวนของพฤติกรรมการจัดการความ ขัดแย้งโดยรวมของพยาบาลวิชาชีพ ได้ร้อยละ 32.20 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05th_TH
dc.formatapplication/pdfen_US
dc.language.isothth_TH
dc.publisherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rightsมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rightsAttribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0)en_US
dc.rights.urihttps://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0/en_US
dc.sourceBorn digitalen_US
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาพยาบาลศาสตร์ -- วิทยานิพนธ์th_TH
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาการบริหารการพยาบาล -- วิทยานิพนธ์th_TH
dc.subjectพยาบาล -- ความเครียดในการทำงานth_TH
dc.subjectการบริหารความขัดแย้งth_TH
dc.titleปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการจัดการความขัดแย้งของพยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลทั่วไป เขตตรวจราชการสาธารณสุขที่ 18th_TH
dc.title.alternativeFactors influencing conflict management behaviors of professional nurses at general hospitals in Public Health Inspection Region 18th_TH
dc.typeThesisth_TH
dc.degree.nameพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิตth_TH
dc.degree.levelปริญญาโทth_TH
dc.degree.disciplineสาขาวิชาพยาบาลศาสตร์th_TH
dc.degree.grantorมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.description.abstractalternativeThe purposes of this descriptive research were: (1) to study cognition and affection to conflict management of professional nurses, (2 ) to investigate conflict management behaviors of professional nurses, and (3 ) to explore the influence of cognition and affection to conflict management to conflict management behaviors of professional nurses at general hospitals in Public Health Inspection Region 18. The sample comprised 163 professional nurses who worked at the nursing department in general hospitals, Public Health Inspection Region 18 and were selected by the simple random sampling technique. The research instrument was questionnaires including three parts: part 1: personal data, part 2: cognition and affection to conflict management, and part 3: conflict management behaviors. The reliability of the second part and the third part were 0.86, and 0.98 respectively. Data were analyzed by frequency, percentage, mean, standard deviation and stepwise multiple regression analysis. The findings were as follows. (1) Professional nurses rated their cognition and affection to conflict management at the high level. (2) They rated their conflict management behaviors at the moderate level. (3) Perception of self-efficacy about conflict management, and perception of influences on situations to conflict management were significantly explained variance of conflict management behaviors. These predictors accounted for 32.20% (R2 = 0.322, p < 0.05)en_US
Appears in Collections:Nurse-Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Thesbib144794.pdfเอกสารฉบับเต็ม6.78 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons