การวิเคราะห์ต้นทุนและผลประโยชน์ของการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน

Abstract

การศึกษาวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) วิเคราะห์ต้นทุนและผลประโยชน์ของการ ให้แรงจูงใจของภาครัฐ เพื่อให้มีการอนุรักษ์พลังงานโดยการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากผล ประหยัดที่เกิดขึ้นจริง และการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากเงินลงทุนเพื่อการประหยัดพลังงาน และ 2) วิเคราะห์เปรียบเทียบต้นทุนและผลประโยชน์ของการให้แรงจูงใจของภาครัฐ เพื่อให้มีการ อนุรักษ์พลังงานโดยการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากผลประหยัดที่เกิดขึ้นจริงและการให้สิทธิ ประโยชน์ทางภาษีจากเงินลงทุนเพื่อการประหยัดพลังงาน ในการศึกษาวิจัยนี้ใช้ข้อมูลทุติยภูมิจากผลการดำเนินโครงการของการให้สิทธิ ประโยชน์ทางภาษีจากผลประหยัดที่เกิดขึ้นจริง จำนวน 75 แห่ง และของการให้สิทธิประโยชน์ทาง ภาษีจากเงินลงทุนเพื่อการประหยัดพลังงาน จำนวน 94 แห่ง ผลการศึกษาพบว่า การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีทั้งสองแนวทางดังกล่าว เมื่อใช้ อัตราคิดลดร้อยละ 12 มีความคุ้มค่ากับการลงทุนทั้งในมุมมองของภาคเอกชนและของภาครัฐ โดย การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากผลประหยัดที่เกิดขึ้นจริงในมุมมองของภาคเอกชน ได้มูลค่า ปัจจุบันสุทธิ (NPV) เท่ากับ 1,776,300,868 บาท อัตราผลตอบแทนภายในของการลงทุน (IRR) ร้อยละ 80.17 และอัตราผลตอบแทนต่อต้นทุน (B/C ratio) เท่ากับ 4.40 โดยในมุมมองของภาครัฐ ได้ค่า NPV เท่ากับ 1,324,479,668 บาท IRR ร้อยละ 929.11 และ B/C ratio มีค่าเท่ากับ 60.18 สำหรับการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากเงินลงทุนเพื่อการประหยัดพลังงานในมุมมองของ ภาคเอกชนได้ค่า NPV เท่ากับ 1,254,419,624 บาท IRR ร้อยละ 55.37 และ B/C ratio เท่ากับ 3.14 โดยในมุฆมองของภาครัฐได้ค่า NPV เท่าอับ 1,728,745,761 บาท IRR ร้อยละ 345.32 และ B/C ratio เท่ากับ 19.50 ซึ่งโดยภาพรวมการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากผลประหยัดที่เกิดขึ้นจริงจะมี ความคุ้มค่าจากการลงทุนมากกว่าการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากเงินลงทุนเพื่อการประหยัด พลังงาน