Please use this identifier to cite or link to this item:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/2536
Title: | พฤติกรรมการออมของบุคลากรในโรงเรียน : กรณีศึกษาโรงเรียนในสังกัดเขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร |
Other Titles: | Saving behavior of school personnel : a case study of schools in Phasichareon District under Bangkok Metropolitan Administration |
Authors: | ศิริพร สัจจานันท์ รุ่งทิพย์ สันทัดพร้อม, 2514- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ |
Keywords: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาเศรษฐศาสตร์--การศึกษาเฉพาะกรณี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์--การศึกษาเฉพาะกรณี การประหยัดและการออม การศึกษาอิสระ--เศรษฐศาสตร์ |
Issue Date: | 2552 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
Abstract: | การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) พฤติกรรมและปัจจัยการออมของบุคลากรในโรงเรียน : กรณีศึกษาโรงเรียนในสังกัดเขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร (2) ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการออมของบุคลากรในโรงเรียน : กรณีศึกษาโรงเรียนในสังกัดเขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร การศึกษาครั้งนี้ได้ทำการวิเคราะห์โดยอาศัยข้อมลปฐมภูมิและทุติยภูมิ โดยข้อมูลปฐมภูมิ รวบรวมจากประชากรในโรงเรียนในสังกัดเขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร (เฉพาะข้าราชการครูที่ดำรง ตำแหน่งระดับครูผู้ช่วยถึงระดับผู้บริหาร) จำนวน 218 คน โดยการเลือกตัวอย่างแบบสุ่มด้วยเทคนิคสุ่ม ตัวอย่าง โดยการใช้สูตร ของ Yamane ใช้การวิเคราะห์เชิงพรรณนาและการวิเคราะห์เชิงปริมาณ ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป วิเคราะห์สมการถดถอยเชิงซ้อน โดยประมาณค่าด้วยวิธีกำลังสองน้อย ที่สุด ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 ผลการศึกษาพบว่า (1) พฤติกรรมการออมของบุคลากรในโรงเรียน : กรณีศึกษาโรงเรียน ในสังกัดเขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร มีวัตถุประสงค์ในการออม 3 อันดับแรก เกิดจากความต้องการเพื่อเก็บไว้ใช้ยามเจ็บป่วย/ชรา/ฉุกเฉิน เพื่อเป็นหลักประกันของครอบครัว และเพื่อดอกเบี้ยและเงินปันผล ตามลำดับ รูปแบบการออม 3 อันดับแรก คือ การออมเงินกับสถาบันการเงิน การฝากเงินกับสหกรณ์ออมทรัพย์ครู กทม. การซื้อกรมธรรมประกันชีวิต ตามลำดับ (2) ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการออมของบุคลากรในโรงเรียน : กรณีศึกษาโรงเรียนในสังกัดเขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร พบว่าปัจจัยที่มีผลต่อการพยากรณ์พฤติกรรมการออมของบุคลกรในโรงเรียน : กรณีศึกษาโรงเรียนในสังกัดเขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 มี 3 ปัจจัย ซึ่งได้แก่ปัจจัยด้านชื้อกรมธรรม์ประกันชีวิต มีค่า (6) เท่ากับ 0.318 และมีค่าความน่าจะเป็น Sig = 0.009 ปัจจัยด้านซื้อกองทุนรวม มีค่า (6)= -0.740 และมีค่าความน่าจะเป็น Sig = 0.043 ปัจจัยด้านชื้อทองคำมีค่า (6) เท่ากับ-0.321 และมีค่า ความน่าจะเป็น Sig = 0.029 (3) ปัญหาอุปสรรคในการออมส่วนใหญ่เกิดจากภาระค่าใช้จ่ายสูง |
URI: | http://ir.stou.ac.th/handle/123456789/2536 |
Appears in Collections: | Econ-Independent study |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
129508.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 3.21 MB | Adobe PDF | View/Open |
This item is licensed under a Creative Commons License