Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/2607
Title: การศึกษาการลงทุนในตราสารทุนและตราสารหนี้กลุ่มพลังงานในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กรณีศึกษาหุ้นกู้บริษัท ปคท. จำกัด(มหาชน) และบริษัท ปคท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียมจำกัด(มหาชน)
Other Titles: Study of investment in equities and bond markets in energy sector of stock exchange of Thailand case study: PTT and PTTEP
Authors: รัชฎาพร เลิศโภคานนท์
ศิริรัตน์ บุญกุล, 2511-
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์
Keywords: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาเศรษฐศาสตร์--การศึกษาเฉพาะกรณี
บริษัท ปตท.
ตราสารหนี้--การลงทุน
การศึกษาอิสระ--เศรษฐศาสตร์
Issue Date: 2552
Publisher: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
Abstract: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ความเสี่ยงและอัตราผลตอบแทนจากการ ลงทุนในหลักทรัพย์และตราสารหนี้ในกลุ่มพลังงานในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 2) เปรียบเทียบอัตราผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนตราสารทั้งสองบริษัทการศึกษาในครั้งนี้ผู้ศึกษาศึกษาเฉพาะหลักทรัพย์หุ้นสามัญของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTT) และหลักทรัพย์บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตเลียม จำกัด (มหาชน) (PTTEP)โดยการวิเคราะห์แบบจำลองการตั้งราคาหลักทรัพย์ (CAPM) ใช้ข้อมูลงบการเงินและข้อมูลการซื้อขายทุนระหว่างปี 2546 ถึง 2551 ในส่วนของหุ้นกู้ ใช้ข้อมูลหุ้นกู้ของ PTT จำนวน 14 หลักทรัพย์และ หุ้นกู้ของ PTTEP จำนวน 4 หลักทรัพย์ ผลการศึกษาพบว่าอัตราผลตอบแทนรวม หรือผลตอบแทนจากเงินปันผลรวมกับกำไรจากผลต่างราคาหุ้นจากการลงทุนในหลักทรัพย์ขึ้นกับต้นทุนหุ้นที่นักลงทุนถือครองซึ่งเป็นความเสี่ยงของการลงทุนในตราสารทุน อย่างไรก็ตามหากนักลงทุนซื้อหุ้นได้ในจุดต่ำสุดของปีและขาออก ณ สิ้นปี นักลงทุนจะไม่ขาดทุนเลย โดยจะมีผลตอบแทนรวมเป็นบวกโดยตลอด หากพิจารณาโดยไม่นับปื 2546 ที่ตลาดเริ่มให้ความสนใจหุ้นกลุ่มหลังงานและทำให้หุ้นปรับตัวขึ้นตั้งแต่ต้นปี ระหว่างปี 2547 ถึง 2551 การลงทุนในหุ้น PTT ให้ผลตอบแทนรวมร้อยละ 24 ถึง 105 และการ ลงทุนในหุ้น PTTEP ให้ผลตอบแทนรวมร้อยละ 27 ถึง 51 ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบผลตอบแทนจากเงินปันผลและดอกเบี้ยจ่ายที่ได้จากหุ้นกู้ของหลักทรัพย์ทั้ง 2 พบว่าผลตอบแทนจากอัตราดอกเบี้ยจ่ายของหุ้นกู้ PTT จะสูงกว่า ที่นักลงทุนได้รับจากเงินปันผลของการลงทุนในหุ้นทั้งสองเกือบตลอดทุกช่วงระยะเวลาที่ทำการศึกษา ดังนั้นนักลงทุนที่ไม่ต้องการความเสี่ยงควรลงทุนในหุ้นกู้ส่วนนักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงสามารถเลือกลงทุนในหุ้นสามัญเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น
URI: http://ir.stou.ac.th/handle/123456789/2607
Appears in Collections:Econ-Independent study

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
139428.pdfเอกสารฉบับเต็ม7.58 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons