กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/2632
ชื่อเรื่อง: ความพร้อมของการจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ในศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดนราธิวาส
ชื่อเรื่องอื่นๆ: Readyness to establish savings and Credit Cooperative in the Pikunthong Royal Development Study Center, Narathiwat Province
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: ธัญญรัศม์ วศวรรณวัฒน์, อาจารย์ที่ปรึกษา
เสาวณีย์ นาแซ, 2523-
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาส่งเสริมการเกษตรและสหกรณ์
คำสำคัญ: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาสหกรณ์ --การศึกษาเฉพาะกรณี
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
สหกรณ์ออมทรัพย์
การศึกษาอิสระ--สหกรณ์
วันที่เผยแพร่: 2550
สำนักพิมพ์: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
บทคัดย่อ: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาความพร้อมของการจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ ในศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุุลทอง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดนราธิวาส (2) เปรียบเทียบความพร้อมของบุคลากรในการจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ในศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดนราธิวาส จำแนกตามอายุงาน ตำแหน่งงาน ระดับการศึกษาและรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ประชากรที่ศึกษา คือ ข้าราชการ ลูกจ้างประจำและพนักงานราชการในศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง อันเนื่องมาจากพระราชดำริจังหวัดนราธิวาส จำนวน 162 ราย เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือแบบสอบถาม การเก็บรวบรวมข้อมูลระหว่างวันที่ 1-31 มีนาคม 2551 สถิฅิที่ใช้ในการวิเคราะห์ขัอมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางคอมพิวเตอร์ ผลการวิจัย พบว่า (1) บุคลากรมีความพร้อมในการจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์โดยพิจารณาด้านทัศนคติพบว่าทัศนคติอยู่ในระดับเห็นด้วยมาก ต้านการมีส่วนร่วม พบว่าความพร้อมอยู่ในระดับสูง และด้านความรู้เกี่ยวกับสหกรณ์ออมทรัพย์ พบว่า บุคลากรมีความรู้อยู่ในระดับปานกลาง และมีบุคลากรที่เคยได้รับการอบรมความรู้เบื้องต้นต้านการสหกรณ์จากผู้ทรงคุณวุฒิหรือนักวิชาการผู้มีประสบการณ์ด้านสหกรณ์มาแล้วไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง ซึ่งผ่านเกณฑ์ของกรมส่งเสริมสหกรณ์ (2) บุคลากรที่มีตำแหน่งงาน ระดับการศึกษา อายุงาน และรายได้เฉลี่ยต่อเดือนต่างกัน มีทัศนคติที่ดีมาก ต่อการจีดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ เช่นเดียวกันยกเว้นกลุ่มที่มีอายุงาน 11-15 ปี และกลุ่มที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 15,000-20,000 บาทมีทัศนคติในระดับปานกลาง นอกจากนี้พบว่าบุคลากรที่มีความสนใจมี ส่วนร่วมในการจัดตั้ง สหกรณ์ออมทรัพย์มากที่สุด คือกลุ่มที่มีอายุงานมากกว่า 15 ปื มีตำแหน่งงานเป็น พนักงานราชการ มีระดับการศึกษาต่ำกว่า ปวส. และเป็นกลุ่มที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนต่ำกว่า 10,000 บาท
URI: http://ir.stou.ac.th/handle/123456789/2632
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:Agri-Independent study

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
Fulltext-112799.pdfเอกสารฉบับเต็ม4.81 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการนี้ได้รับอนุญาตภายใต้ Creative Commons License Creative Commons