Please use this identifier to cite or link to this item:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/3126Full metadata record
| DC Field | Value | Language |
|---|---|---|
| dc.contributor.advisor | บำเพ็ญ เขียวหวาน, อาจารย์ที่ปรึกษา | th_TH |
| dc.contributor.advisor | พรชุลีย์ นิลวิเศษ, อาจารย์ที่ปรึกษา | th_TH |
| dc.contributor.author | บุญถม คำภาค, 2524- | - |
| dc.contributor.other | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา | th_TH |
| dc.date.accessioned | 2023-02-09T06:41:14Z | - |
| dc.date.available | 2023-02-09T06:41:14Z | - |
| dc.date.issued | 2557 | - |
| dc.identifier.uri | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/3126 | - |
| dc.description | วิทยานิพนธ์ (กษ.ม. (ส่งเสริมการเกษตร))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2557 | th_TH |
| dc.description.abstract | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) สภาพพื้นฐานส่วนบุคคล สภาพเศรษฐกิจและสังคมของเกษตรกร (2) ความคิดเห็นของเกษตรกรเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีการผลิตมันสำปะหลัง (3) ความรู้และแหล่งความรู้เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีการผลิตมันสำปะหลังของเกษตรกร (4) การใช้เทคโนโลยีการผลิตมันสำปะหลังของเกษตรกร (5) ปัญหาและข้อเสนอแนะในการผลิตและการส่งเสริมมันสำปะหลังของเกษตรกร ผลการวิจัยพบว่า 1) เกษตรกรส่วนมากเป็นเพศหญิง มีอายุเฉลี่ย 48.38 ปี จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสบการณ์ในการปลูกมันสำปะหลังเฉลี่ย 13.76 ปี มีการถือครองที่ดินในการทำการเกษตรเป็นของตนเอง จำนวนพื้นที่ถือครองที่ดินในการทำการเกษตรทั้งหมดเฉลี่ย 38.37 ไร่ ขนาดพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังเฉลี่ย 20.06 ไร่ รายได้ของครัวเรือนในภาคการเกษตรเฉลี่ย 179,398.56 บาทต่อปี รายจ่ายของครัวเรือนในภาคการเกษตรเฉลี่ย 74,371.94 บาทต่อปี ผลผลิตมันสำปะหลังเฉลี่ย 3.53 ตัน/ไร่ รายได้เฉลี่ย 6,258.27 บาทต่อไร่ เกษตรกรส่วนมากไม่มตำแหน่งทางสังคม และเกษตรกรเกือบครึ่งหนึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มสมาชิกลูกค้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 2) เกษตรกรมีความคิดเห็นเกี่ยวกับความยุ่งยากของเทคโนโลยีการผลิตมันสำปะหลังโดยภาพรวมทั้งหมดอยู่ในระดับยุ่งยากน้อย 3) เกษตรกรส่วนมากมีความรู้มากเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีการผลิตมันสำปะหลัง และความรู้ที่เกษตรกรได้รับจากทั้ง 3 แหล่งความรู้ ได้แก่ สื่อบุคคล สื่อกลุ่ม และสื่อมวลชน ในภาพรวมทั้งหมดอยู่ในระดับน้อย 4) เกษตรกรส่วนมากปลูกมันสำปะหลังโดยใช้พันธุ์เกษตรศาสตร์ 50 เก็บท่อนพันธุ์เก่าใช้ เกษตรกรทั้งหมดปลูกแบบปักท่อนพันธุ์ตั้งตรง การปลูก ใส่ปุ๋ย กำจัดวัชพืชและเก็บเกี่ยวด้วยแรงงานคน เกษตรกรส่วนใหญ่อาศัยน้ำฝนและใส่ปุ๋ยเคมี และเกษตรกรส่วนมากจำหน่ายผลผลิตที่ลานรับซื้อและโรงแป้ง 5) เกษตรกรมีปัญหาในการผลิตและการส่งเสริมมันสำปะหลังโดยภาพรวมทั้งหมดอยู่ในระดับรุนแรงปานกลาง เมื่อพิจารณารายประเด็น พบว่า ปัญหาค่าสารเคมีราคาแพง ค่าจางแรงงานสูง และราคาผลผลิตต่าอยู่ในระดับรุนแรงมาก ดังนั้น จึงเสนอแนะว่า ควรจัดอบรมการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน และรัฐบาลควรกำหนดราคารับซื้อหัวมันสด 2.50-3.00 บาทต่อกิโลกรัม และควรส่งเสริมให้เกษตรกรทำการรวมกลุ่มกันผลิตและขาย อันนำไปสู่อำนาจการต่อรองราคาขายผลผลิตกับแหล่งรับซื้อได้ | th_TH |
| dc.format | application/pdf | en_US |
| dc.language.iso | th | en_US |
| dc.publisher | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช | th_TH |
| dc.relation.uri | https://www.doi.org/10.14457/STOU.the.2014.16 | - |
| dc.rights | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช | th_TH |
| dc.rights | Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) | en_US |
| dc.rights.uri | https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0/ | en_US |
| dc.source | Born digital | en_US |
| dc.subject | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาเกษตรศาสตร์และสหกรณ์ --วิทยานิพนธ์ | th_TH |
| dc.subject | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาส่งเสริมการเกษตร --วิทยานิพนธ์ | th_TH |
| dc.subject | มันสำปะหลัง--ไทย--สระแก้ว--การผลิต. | th_TH |
| dc.title | การผลิตมันสำปะหลังของเกษตรกรในอำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว | th_TH |
| dc.title.alternative | Cassava production by farmers in Watthana Nakhon District of Sa Kaeo Province | en_US |
| dc.type | Thesis | en_US |
| dc.identifier.DOI | 10.14457/STOU.the.2014.16 | - |
| dc.degree.name | เกษตรศาสตรมหาบัณฑิต | th_TH |
| dc.degree.level | ปริญญาโท | th_TH |
| dc.degree.discipline | สาขาวิชาเกษตรศาสตร์และสหกรณ์ | th_TH |
| dc.degree.grantor | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช | th_TH |
| dc.description.abstractalternative | The objectives of this resaerch were to study (1) basic economic and social status of farmers, (2) farmers’ opinions toward technology application for cassava production, (3) the farmers’ knowledge and knowledge sources of the technology application for cassava production; (4) technology application by farmers for cassava production; and (5) problems and suggestions of farmers on cassava production and extension. The population in this study was cassava farmers in Watthana Nakhon District of Sa Kaeo Province, 278 samples were selected by using a simple random sampling methodology. The data were collected by using structural interviewed questionnaire. The statistical methodology was used to analyze data by computerized program including frequency, percentage, minimum value, maximum value, mean, standard deviation, and ranking. The findings of this study were as follows: (1) most of the armers were female, with an average age of 48.38 years. They were educated at lower primary level. The average period of experience in cassava production was 13.76 years. The land used for cassava cultivation was their own land. The average total farming area was 38.37 rai (1 rai = 1,600 square meters). The average size of the area used for cassava cultivation was 20.06 rai. The average household income deriving from agricultural production was 179,398.56 Baht/year. The average household farming exepnses was 74,371.94 Baht/year. The average number of cassava produce was 3.53 tons/rai. The average income deriving from cassava production was 6,258.27 Baht/rai. Most of them had no social position. Hence, almost a half of them were a client of the Bank for Agriculture and Agricultural Co-Operatives. (2) To study the opinions toward the complication of cassava technology, the perceived the complication was generally at low level. (3) Most of the farmers had much knowledge of the application of technologies to their cassava production, while the knowledge transferred from three knowledge sources, such as personal media, group media, and mass media were at low level. (4) Most of them use Kasetsart 50 variety. They usually kept old cassava variety logs and grew them by pushing the logs into the soil vertically, applied chemical fertilizer, eliminated weeds for them, and harvested, these activities were done by their labors. The water sources were mostly the rain. Hence, they mostly distributed their produces at marketplaces or cassava starch factories. Furthermore, (5) the farmers had overall severe problems on cassava production and extension at medium level, such as the chemical substances were expensive, the labor wage was high, but the selling price of their produce was low. They suggested that there should have a training course for them on fertilizer application adhering to the soil analyzing value; the government agency should fix the selling price of fresh cassava at 2.50-3.00 Baht/kg.; and they should be supported in organizing a group for production and distributing the fresh cassava leading to have the power to bargain with merchants on the selling price of cassava produces. | en_US |
| Appears in Collections: | Agri-Theses | |
Files in This Item:
| File | Description | Size | Format | |
|---|---|---|---|---|
| 146150.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 16.62 MB | Adobe PDF | View/Open |
This item is licensed under a Creative Commons License
