กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/3132
ชื่อเรื่อง: | การส่งเสริมการเกษตรตามแนวทางโรงเรียนเกษตรกรในจังหวัดยะลา |
ชื่อเรื่องอื่นๆ: | Agriculture extension adhering to farmer field school approaches in Yala Province |
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: | จินดา ขลิบทอง, อาจารย์ที่ปรึกษา สุนันท์ สีสังข์, อาจารย์ที่ปรึกษา สนธิลา บุญมาก, 2525- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา |
คำสำคัญ: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาเกษตรศาสตร์และสหกรณ์ --วิทยานิพนธ์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาส่งเสริมการเกษตร --วิทยานิพนธ์ การส่งเสริมการเกษตร--ไทย--ยะลา |
วันที่เผยแพร่: | 2557 |
สำนักพิมพ์: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
บทคัดย่อ: | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) สภาพพื้นฐานทางสังคม เศรษฐกิจ และสถานภาพการผลิตข้าวของเกษตรกร ในจังหวัดยะลา (2) การดำเนินงานส่งเสริมการเกษตรตามแนวทางโรงเรียนเกษตรกร (3) การยอมรับเทคโนโลยีด้านการปลูกข้าวของเกษตรกร ก่อนและหลังการเข้าร่วมการส่งเสริมการเกษตรตามแนวทางโรงเรียนเกษตรกร (4) ปัญหาและข้อเสนอแนะในการส่งเสริมการเกษตรตามแนวทางโรงเรียนเกษตรกรผลการวิจัย พบว่า (1) เกษตรกรส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุเฉลี่ย 46.45 ปี สมรส ส่วนใหญ่จบการศึกษาระดับประถมศึกษา ไม่มีตำแหน่งทางสังคม แต่เป็นสมาชิกสถาบันกลุ่มเกษตรกร เกษตรกรมีสมาชิกในครัวเรือนโดยเฉลี่ย 6 คน แรงงานในการทำการเกษตรส่วนมากเป็นเพศหญิงโดยเฉลี่ย 2 คน มีพื้นที่ปลูกข้าวโดยเฉลี่ย 3.44 ไร่ และพื้นที่ปลูกข้าวเป็นที่ลุ่ม มีประสบการณ์ในการปลูกข้าวเฉลี่ย 16.43 ปี (2) ดำเนินงานตามแนวทางโรงเรียนเกษตรกร โดยปฏิบัติการดำเนินการมากที่สุดร้อยละ 98.3 คือกิจกรรมการเข้าร่วมการอบรมตลอดฤดูกาลและสรุปและวางแผนสำหรับสัปดาห์ต่อไป การดำเนินงานตามแนวทางโรงเรียนเกษตรกรของเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ส่วนมากมีความรู้จากการอบรมของหน่วยงานในสังกัด โดยเลือกการส่งเสริมการเกษตรตามแนวทางโรงเรียนเกษตรกรไปปฏิบัติในพื้นที่เพราะมีความเหมาะสมกับการเรียนรู้ ปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ โดยหาเกษตรกรเป้าหมาย สอบถามปัญหาและความต้องการของเกษตรกร รวมกลุ่มเกษตรกร วางแผนการดำเนินการตามช่วงฤดูกาลของพืช ในการคัดเลือกสถานที่ตั้งโรงเรียนเกษตรกร (แปลงฝึกปฏิบัติ) ให้เกษตรกรตกลงนัดหมายในพื้นที่เกษตรกรเป็นศูนย์กลาง และจับประเด็นในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของเกษตรกร เพื่อวิเคราะห์ปัญหาและสรุปผล (3) เกษตรกรยอมรับและปรับเปลี่ยนการปฏิบัติ มากที่สุดร้อยละ 82.8 ในการใช้ต้นกล้าที่มีอายุประมาณ 25-30 วันทำให้เกษตรกรมีผลผลิตข้าวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 91 กิโลกรัมต่อไร่ เกษตรกรไม่ปรับเปลี่ยนการปฏิบัติ คือการใช้เมล็ดันธุ์ข้าวจากแหล่งที่เชื่อถือได้(หน่วยงานราชการ) และการไถกลบตอซังเพื่อบำรุงดินหลังการเก็บเกี่ยว (4) เกษตรกรระบุว่ามีปัญหาด้านศัตรูข้าว ในระดับปานกลาง ปัญหาของเจ้าหน้าที่คือขาดความชำนาญ และประสบการณ์ วัสดุอุปกรณ์และไม่เพียงพอชวงเวลาเจ้าหน้าที่และเกษตรกรไม่ตรงกัน ทำให้ไม่ตรงกับช่วงอายุพืชที่มีปัญหา ข้อเสนอแนะของเกษตรกรคือเกษตรกรอายุมากขาดแรงงาน จึงควรส่งเสริมเกษตรกรรุ่นใหม่ ข้อเสนอแนะของเจ้าหน้าที่คือควรพัฒนาให้มีความรู้และทักษะให้มากขึ้น |
รายละเอียด: | วิทยานิพนธ์ (กษ.ม. (ส่งเสริมการเกษตร))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2557 |
URI: | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/3132 |
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล: | Agri-Theses |
แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม | รายละเอียด | ขนาด | รูปแบบ | |
---|---|---|---|---|
146807.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 11.45 MB | Adobe PDF | ดู/เปิด |
รายการนี้ได้รับอนุญาตภายใต้ Creative Commons License