Please use this identifier to cite or link to this item:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/4964| Title: | ผลการใช้รูปหนังตะลุงเป็นสื่อการเรียนที่มีต่อทักษะการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนวัดแหลมดินสอ จังหวัดพัทลุง |
| Other Titles: | Effects of using shadow play figures as instructional on english speaking skill of Prathom Suksa II Students at Wat Laemdinsaw School in Phatthalung Province |
| Authors: | ผุสดี กุฏอินทร์ อรอุมา พรหมจรรย์, 2512- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ |
| Keywords: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาศึกษาศาสตร์--การศึกษาเฉพาะกรณี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาหลักสูตรและการสอน--การศึกษาเฉพาะกรณี ภาษาอังกฤษ--การศึกษาและการสอน (ประถมศึกษา)--ไทย--พัทลุง |
| Issue Date: | 2552 |
| Publisher: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
| Abstract: | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบทักษะการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้รูปหนังตะลุงเป็นสื่อการเรียน และ (2) ศึกษาพฤติกรรมการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปหนังตะลุงเป็นสื่อการเรียน กลุ่มตัวอย่างของการวิจัย เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนวัดแหลมดินสอ จังหวัดพัทลุง ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2552 จํานวน 21 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนา ทักษะการ พูดภาษาอังกฤษ โดยใช้รูปหนังตะลุงเป็นสื่อการเรียน จํานวน 10 แผน แบบทดสอบวัดทักษะการพูดภาษาอังกฤษและแบบสังเกตพฤติกรรมการพูดภาษาอังกฤษ การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้การหาร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบค่าที ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนมีทักษะการพูดภาษาอังกฤษหลังเรียน โดยใช้รูปหนังตะลุงเป็นสื่อการเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ ระดับ .01 และจากการสังเกตพฤติกรรมการพูดของนักเรียนพบว่านักเรียนมีพฤติกรรมการพูดอยู่ในระดับดี |
| URI: | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/4964 |
| Appears in Collections: | Edu-Independent study |
Files in This Item:
| File | Description | Size | Format | |
|---|---|---|---|---|
| fulltext_128696.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 4.78 MB | Adobe PDF | View/Open |
This item is licensed under a Creative Commons License