กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/5738
ชื่อเรื่อง: | ยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ในชั้นพนักงานสอบสวน |
ชื่อเรื่องอื่นๆ: | Restorative justice at the level of investigation officials |
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: | ธวัชชัย สุวรรณพานิช ชัยณรงค์ รัตนผล, 2500- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิติศาสตร์ |
คำสำคัญ: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิติศาสตร์--การศึกษาเฉพาะกรณี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วิชาเอกกฎหมายอาญาและกระบวนการยุติธรรม--การศึกษาเฉพาะกรณี การไกล่เกลี่ย การระงับข้อพิพาท การศึกษาอิสระ--นิติศาสตร์ กระบวนการยุติธรรมทางอาญา กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ |
วันที่เผยแพร่: | 2555 |
สำนักพิมพ์: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
บทคัดย่อ: | การศึกษาค้นคว้าอิสระเรื่อง กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ในชั้นพนักงานสวบสวน : ศึกษาเฉพาะกรณีความผิดอาญาเกี่ยวกับเด็กและเยาวชน มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อทราบถึงแนวคิดทฤษฎีรวมถึงเจตนารมณ์ของกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ในชั้นพนักงานสวบสวน กรณีความผิดอาญาเกี่ยวกับเด็กและเยาวชน (2) เพื่อทราบหลักเกณฑ์เกี่ยวกับกระบวนการพิจารณาความอาญาเกี่ยวกับเด็กและเยาวชนและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง (3) เพื่อเสนอแนะแนวทางการปฏิบัติในชั้นพนักงานสวบสวน กรณีความผิดอาญาเกี่ยวกับเด็กและเยาวชน ให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ การศึกษาวิจัย จึงต้องศึกษากฎหมายและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการนำกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ไปใช้ โดยการศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและปรากฏการณ์จริงจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อศึกษาและวิเคราะห์เปรียบเทียบหลักเกณฑ์ในกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์กับการปฏิบัติในชั้นพนักงานสอบสวนกรณีความผิดอาญาเกี่ยวกับเด็กและเยาวชน ผลการศึกษาพบว่า กระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางอาญาในชั้นพนักงานสอบสวน เป็นมาตรการทางกฎหมายที่สำคัญซึ่งสมควรนำหลักความยุติธรรมเชิงสมานฉันท์มาใช้ เพื่อให้ผู้กระทำผิดได้รับการบำบัดฟื้นฟูที่เหมาะสมและผู้เสียหายได้รับการเยียวยาอย่างแท้จริง แต่จากการศึกษาพบว่าประเทศไทยยังไม่มี กฎหมายโดยตรงที่เกี่ยวกับการไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางอาญาในชั้นพนักงานสอบสวนอย่างชัดเจน ปัจจุบันได้มีการจัดทำร่างพระราชบัญญัติไกล่เกลี่ยข้อพิพาทคดีอาญาในชั้นสอบสวน พ.ศ. ....ขึ้น แต่ก็ยังไม่ประกาศบังคับใช้เป็นรูปธรรม ส่งผลให้ผู้กระทำผิดไม่ได้รับการ บำบัดฟื้นฟูที่เหมาะสมและผู้เสียหายไม่ได้รับการเยียวยาอย่างแท้จริง และชุมชนยังขาดโอกาสในการเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการต่าง ๆ อย่างสมบูรณ์ จึงเห็นควรนำหลักความยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ ซึ่งมีหลักการที่ให้ความสำคัญกับการเยียวยาผู้เสียหายบำบัดฟื้นฟูผู้กระทำผิด และให้ชุมชนได้เข้ามามีส่วนร่วม มีการเยียวยาตรงกับความต้องการของผู้เสียหาย และยังช่วยลดอัตราการกระทำ ความผิดซ้ำ โดยให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการเยียวยาและป้องกัน แก้ไขการกระทำความผิด อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อระบบกระบวนการยุติธรรมและสังคม และด้วยเหตุที่กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์นี้เป็นทั้ง ปรัชญา แนวคิด และแนวปฏิบัติที่สั่งสมมาจากข้อจำกัดของระบบการอำนวยความยุติธรรม ซึ่งในปัจจุบันการอำนวยความยุติธรรมที่มุ่งเน้นความสมานฉันท์นี้จึงน่าจะมีพื้นที่ที่สามารถนำไปใช้ได้โดยไม่มีขอบเขต และ แนวคิดเรื่องกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์เป็นแนวคิดเปิดที่ยังสามารถทำการศึกษาวิจัยในมิติต่าง ๆ ได้อย่างกว้างขวางต่อไป |
URI: | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/5738 |
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล: | Law-Independent study |
แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม | รายละเอียด | ขนาด | รูปแบบ | |
---|---|---|---|---|
fulltext_134094.pdf | เอกสารฉบับจริง | 11.43 MB | Adobe PDF | ดู/เปิด |
รายการนี้ได้รับอนุญาตภายใต้ Creative Commons License