กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/5870
ชื่อเรื่อง: การวิเคราะห์อัตราผลตอบแทนความเสี่ยงและปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาหลักทรัพย์หมวดธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ชื่อเรื่องอื่นๆ: Analysis of the rate of return, risk and factors affecting security prices of property development sector in The Stock Exchange of Thailand
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: วานิช มาลัย
ปนิฏฐา ชีสังวรณ์
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา
วรรณี ชลนภาสถิตย์
อัจฉรา ชีวะตระกูลกิจ
คำสำคัญ: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาวิทยาการจัดการ--วิทยานิพนธ์
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาบริหารธุรกิจ--วิทยานิพนธ์
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์--ความเสี่ยง
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์--อัตราผลตอบแทน
วันที่เผยแพร่: 2550
สำนักพิมพ์: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
บทคัดย่อ: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เปรียบเทียบอัตราผลตอบแทนและความเสี่ยง จากการลงทุนในหลักทรัพย์หมวดธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์กับของตลาดหลักทรัพย์ (2) เปรียบเทียบอัตราผลตอบแทนที่ได้รับจริงเฉลี่ยกับอัตราผลตอบแทนที่ต้องการของหลักทรัพย์หมวดธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (3) ศึกษาปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อราคาหลักทรัพย์ในหมวดธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ประชากร คือ หลักทรัพย์หมวดธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ก่อนวันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2546 และมีการชื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2550 จำนวน 35 หลักทรัพย์ โดยศึกษาตามแบบจำลอง ตัวแบบการตีราคาสินทรัพย์ประเภททุน และใช้สถิติสมการถดถอยพทุคูณในการวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อราคาหลักทรัพย์ในหมวดธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ผลการวิจัยพบว่า (1) อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยต่อเดือนของตลาดหลักทรัพย์มีค่าเป็นบวกเท่ากับร้อยละ 2.17 ขณะที่อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยต่อเดือนของหลักทรัพย์หมวดธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มีค่าเป็นบวกเท่ากับร้อยละ 0.96 โดยมีหลักทรัพย์ที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงสุด 3 อันดับแรกได้แก่ SF, CK และ TICON ส่วนหลักทรัพย์ที่ให้อัตราผลตอบแทนต่าสุด 3 อันดับสุดท้ายได้แก่ LALIN, KMC และ N-PARK ในเรื่องความเสี่ยง หลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงสุด 3 อันดับแรกได้แก่ BLAND, KTP และ UV ส่วนหลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุด 3 อันดับสุดท้ายได้แก่ SAMCO, NOBLE และ MBK (2) มีหลักทรัพย์เพียง 5 หลักทรัพย์ได้แก่ LPN, MBK, SF, SPALI และTICON ที่ให้อัตราผลตอบแทนที่ได้รับจริงเฉลี่ยมากกว่าอัตราผลตอบแทนที่นักลงทุนต้องการ ส่วนที่เหลืออีก 30 หลักทรัพย์ ให้อัตราผลตลบแทนที่ได้รับจริงเฉลี่ยร้อยกว่าอัตราผลตอบแทนที่นักลงทุนต้องการ (3) ปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อราคาหลักทรัพย์หมวดธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ พบว่ามี 3 ปัจจัยได้แก่ อัตราส่วนราคาต่อมูลค่าหุ้นทางบัญชีดัชนีการลงทุนภาคเอกชนและอัตราเงินเฟ้อ
รายละเอียด: วิทยานิพนธ์ (บธ.ม. (บริหารธุรกิจ))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2550
URI: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/5870
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:Manage-Theses

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
108625.pdfเอกสารฉบับเต็ม3.83 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการนี้ได้รับอนุญาตภายใต้ Creative Commons License Creative Commons