Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/6007
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorจันตรี คุปตะวาทินth_TH
dc.contributor.authorรุ่งนภา เหลาบุญมา, 2517-th_TH
dc.contributor.otherสาขาวิชาศึกษาศาสตร์th_TH
dc.date.accessioned2023-05-15T08:50:16Z-
dc.date.available2023-05-15T08:50:16Z-
dc.date.issued2550-
dc.identifier.urihttps://ir.stou.ac.th/handle/123456789/6007en_US
dc.description.abstractการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) วิเคราะห์งานวิจัยเกี่ยวกับสภาพทั่วไปของงานวิจัย ด้านการสอนแนวคอนสตรัคติวิสต์ระดับประถมศึกษา (2) สังเคราะห์งานวิจัยเชิง คุณลักษณะเกี่ยวกับวิธีการเรียนและวิธีการสอนแนวคอนสตรัคติวิสต์ ระดับประถมศึกษากลุ่มตัวอย่างเป็นวิทยานิพนธ์ และรายงานการศึกษาอิสระ ระดับปริญญาโทจากสถาบันในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคที่พิมพ์เผยแพ เพร่ระหว่างปี พ.ศ.2542 - 2550 จำนวน 40 เล่ม โดยใช้วิธีวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานทั่วไปและสังเคราะห์เชิงคุณลักษณะ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่แบบประเมินคุณภาพงานวิจัย และแบบสรุปงานวิจัย การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าร้อยละและการวิเคราะห์เนื้อหาผลการวิจัยพบว่า (1) ข้อมูลทั่วไปของงานวิจัยเกี่ยวกับการสอนแนวคอนสตรัคติวิสต์ ระดับประถมศึกษาจำนวน 40 เล่ม ส่วนใหญ่พิมพ์ในปี พ.ศ.2548 เป็นงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มากที่สุดร้อยละ 65.00 เป็นงานวิจัยซึ่งเป็นวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาโท มากที่สุด ร้อยละ 70.00 ประชากรที่ทำวิจัยเป็นนักเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษาแห่งชาติมากที่สุด ร้อยละ 95.00 ชั้นเรียนที่ทำวิจัยมากที่สุด คือ ระคับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 40.00 วิชาที่นำมาวิจัยมากที่สุด คือ คณิตศาสตร์ ร้อยละ 76.00 เป็นงานวิจัยเชิงทดลองมากที่สุด ร้อยละ 75.00 ที่เก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นนักเรียนประถมศึกษา รูปแบบการเรียน รูปแบบการเรียนมากที่สุด คือ การเรียนเป็นกลุ่มย่อย ร้อยละ 60.00 สื่อหรือวิธีการที่นำมาใช้มากที่สุด คือ แผนการจัดกิจกรรมร้อยละ 42.50 และ (2) ผลการสังเคราะห์ งานวิจัยเชิงคุณลักษณะวัวขวิธีการวิเคราะห์เนื้อหา พบว่า งานวิจัยที่นำมาสังเคราะห์แบ่งเปืน 4 ด้าน ดังนี้ 1) รูปแบบการสอน พบว่า มี 3 รูปแบบ คือ การสอนแบบใช้กิจกรรมการเรียนการสอน แบบใช้สื่อการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์ และแบบใช้เกม โดยครูเป็นผู้มีบทบาทสำคัญ 2) รูปแบบการเรียน มี 3 รูปแบบได้แก่ การเรียนรู้ เป็นกลุ่มย่อย การเรียนด้วยตนเอง และการเรียนโดยมีครูเป็นผู้สอน การเรียนทั้ง 3 รูปแบบนี้ เป็นการเรียนที่พัฒนาตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ ทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนสูงขึ้น 3) สื่อและนวัตกรรมทางการศึกษา ที่เน้นให้ผู้เรียนได้ ฝึกและได้ปฏิบัติด้วยตนเองซึ่งเรียงจากง่ายไปหายากเหมาะสมกับวัยและความต้องการของผู้เรียน 4) ผลการวิจัย พบว่า การสอนตามแนวคอนสตรัคติวิสต์ เมื่อนำมาใช้ในการสอน ทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าการสอนแบบปกติ ช่วยให้ผู้เรียนเกิดความคงทนของการเรียนรู้สูงขึ้นและมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนth_TH
dc.formatapplication/pdfen_US
dc.language.isothen_US
dc.publisherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rightsมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rightsAttribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0)en_US
dc.rights.urihttps://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0/en_US
dc.sourceReformatted digitalen_US
dc.sourceReformated digitalen_US
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาหลักสูตรและการสอน--การศึกษาเฉพาะกรณีth_TH
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาศึกษาศาสตร์--การศึกษาเฉพาะกรณีth_TH
dc.subjectการศึกษาขั้นประถม--การศึกษาและการสอนth_TH
dc.subjectการศึกษาอิสระ--หลักสูตรและการสอนth_TH
dc.titleการสังเคราะห์งานวิจัยเกี่ยวกับการสอนแนวคอนสตรัคติวิสต์ระดับประถมศึกษาth_TH
dc.title.alternativeSynthesis of research on Constructivist instruction at the primary education levelen_US
dc.typeThesisen_US
dc.degree.nameศึกษาศาสตรมหาบัณฑิตth_TH
dc.degree.levelปริญญาโทth_TH
dc.degree.disciplineสาขาวิชาศึกษาศาสตร์th_TH
dc.degree.grantorมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
Appears in Collections:Edu-Independent study

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Fulltext_119355.pdfเอกสารฉบับเต็ม3.92 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons